การจ้างคนงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทยเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนและต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การจ้างงานเป็นไปอย่างถูกต้อง นายจ้างและตัวแรงงานเองจำเป็นต้องเตรียมเอกสารจำนวนมากเพื่อยื่นต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง การขาดเอกสารเพียงชิ้นเดียวอาจทำให้กระบวนการหยุดชะงัก หรือร้ายแรงกว่านั้นคือถูกปรับและดำเนินคดีตามกฎหมาย บทความนี้ได้รวบรวมเช็กลิสต์เอกสารที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการจ้างงานแรงงานข้ามชาติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวได้อย่างครบถ้วนและราบรื่น   เอกสารที่นายจ้างต้องเตรียม: เพื่อขออนุญาตจ้างงาน ในฐานะผู้ว่าจ้าง นายจ้างมีหน้าที่รับผิดชอบในการยื่นเอกสารเพื่อขออนุญาตจ้างแรงงานต่างชาติ และดำเนินการด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นคำร้องมีดังนี้: 1. เอกสารหลักฐานของนายจ้าง (บริษัท/นิติบุคคล) หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล: ที่ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน พร้อมวัตถุประสงค์ (กรณีเป็นบริษัท) สำเนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน: ของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม หรือผู้รับมอบอำนาจ แผนที่แสดงที่ตั้งสถานที่ทำงานโดยสังเขป: เพื่อระบุตำแหน่งที่ตั้งโรงงานหรือบริษัทอย่างชัดเจน เอกสารเกี่ยวกับการเงิน: เช่น งบการเงินย้อนหลัง หรือ ภ.พ.20 (ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อแสดงความสามารถในการจ้างงาน เอกสารเกี่ยวกับจำนวนคนงาน: เช่น รายชื่อพนักงานคนไทยที่มีอยู่ เพื่อให้เป็นไปตามสัดส่วนการจ้างงานตามที่กฎหมายกำหนด 2. เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับความต้องการแรงงาน แบบคำขออนุญาตจ้างคนต่างด้าว: (ตามแบบฟอร์มที่กรมการจัดหางานกำหนด) หนังสือแจ้งความต้องการจ้างงาน: ระบุตำแหน่งงาน ลักษณะงาน และเหตุผลความจำเป็นในการจ้าง คนงานต่างด้าว แทนคนไทย เอกสารรับรองว่าได้พยายามหาคนไทยทำงานแล้ว: เช่น ประกาศรับสมัครงานในพื้นที่ แต่ไม่มีคนไทยมาสมัคร หรือไม่สามารถทำงานได้ตามคุณสมบัติที่ต้องการ (บางกรณี)   เอกสารที่ลูกจ้าง (คนงานต่างด้าว) ต้องเตรียม ลูกจ้างต้องเตรียมเอกสารส่วนตัวและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสถานะทางกฎหมาย เพื่อใช้ในการขอวีซ่า (Non-Immigrant L-A หรือ B) และใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) 1. เอกสารส่วนบุคคล หนังสือเดินทาง (Passport): ที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง (เช่น Border Pass, Travel Document) รูปถ่ายปัจจุบัน: ขนาดตามที่กำหนด (มักเป็น 1.5 หรือ 2 นิ้ว) ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน ใบรับรองแพทย์: ที่แสดงว่าไม่มีโรคต้องห้ามและมีสุขภาพแข็งแรงสามารถทำงานได้ หลักฐานการศึกษา/ประสบการณ์ (ถ้ามี): ใบรับรองการศึกษา หรือหนังสือรับรองประสบการณ์การทำงานจากที่เดิม (สำหรับการยื่นตำแหน่งงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะ) 2. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับสถานะทางกฎหมาย วีซ่าประเภทที่ถูกต้อง: ต้องเป็นวีซ่าประเภท Non-Immigrant ที่อนุญาตให้ทำงานได้ เช่น Non-B (สำหรับผู้บริหาร/วิชาชีพ) หรือวีซ่าประเภทอื่นๆ ที่ใช้สำหรับแรงงานตาม MOU ใบอนุญาตทำงานฉบับเดิม (กรณีต่ออายุ): ใบอนุญาตทำงานที่กำลังจะหมดอายุ   สรุปขั้นตอนการยื่นเอกสารหลักที่ต้องดำเนินการ กระบวนการจ้างคนงานต่างด้าว มักประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลักที่เกี่ยวข้องกับเอกสารข้างต้น: 1. การยื่นขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) นายจ้างต้องยื่นคำขอและเอกสารทั้งหมดต่อกรมการจัดหางานหรือสำนักงานจัดหางานในพื้นที่ หากเอกสารครบถ้วนและได้รับอนุมัติ จะมีการออกใบอนุญาตทำงาน ซึ่งระบุตำแหน่งงานและสถานที่ทำงานอย่างชัดเจน 2. การขอหรือต่ออายุวีซ่า (Visa Application/Extension) เมื่อได้รับใบอนุญาตทำงานหรือใบรับรองการอนุญาตจากกระทรวงแรงงานแล้ว ลูกจ้างต้องนำเอกสารนี้ไปยื่นต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อขอรับการตรวจลงตรา (วีซ่า) หรือการต่ออายุวีซ่าให้อยู่ในประเทศเพื่อทำงานได้อย่างถูกต้อง การดำเนินการนี้มักต้องทำควบคู่ไปกับการทำประกันสุขภาพตามที่กฎหมายกำหนด การดำเนินการให้ถูกต้องตั้งแต่ต้นจะช่วยให้นายจ้างไม่ต้องเผชิญกับบทลงโทษทางกฎหมายที่รุนแรง และช่วยให้ลูกจ้างสามารถทำงานในประเทศไทยได้อย่างมั่นคงและมีสวัสดิการที่เหมาะสม การเตรียมเอกสารตามเช็กลิสต์ที่ระบุไว้ข้างต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด   บริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด: พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงานต่างด้าว หากการจัดเตรียมเอกสารที่ซับซ้อนและการติดต่อหน่วยงานราชการต่างๆ เป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับคุณ บริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด คือผู้ช่วยที่พร้อมดูแลกระบวนการทั้งหมดแทนคุณ เราคือบริษัทที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากกระทรวงแรงงาน ให้บริการนำเข้าและบริหารจัดการคนงานต่างด้าวตามกฎหมายอย่างครบวงจร ตั้งแต่การสรรหาแรงงาน การจัดทำเอกสาร การยื่นขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และวีซ่า ตลอดจนการดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของแรงงานภายใต้ระบบ MOU เราช่วยให้องค์กรของคุณสามารถจ้างงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไร้กังวลเรื่องปัญหาเอกสาร และสามารถมุ่งเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มที่     ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

การจ้างคนงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญสำหรับภาคธุรกิจและผู้ประกอบการหลายราย แต่คำถามที่พบบ่อยที่สุดคือ "ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการจ้างคนงานต่างด้าว 1 คนมีเท่าไหร่?" การคำนวณต้นทุนอย่างรอบด้านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะสรุปรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่นายจ้างต้องรับผิดชอบ ตั้งแต่ค่าธรรมเนียมแรกเริ่มไปจนถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายอย่างต่อเนื่อง   ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น: ก่อนที่คนงานจะเริ่มทำงาน ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงแรกของกระบวนการจ้างงาน ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตทำงานและการเดินทาง 1. ค่าธรรมเนียมการดำเนินการ (ค่าบริการบริษัทจัดหา) หากคุณเลือกใช้บริการบริษัทจัดหางาน ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะครอบคลุมตั้งแต่การคัดเลือกแรงงาน การเตรียมเอกสารที่ประเทศต้นทาง การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย และการนำเข้าแรงงานอย่างถูกกฎหมาย โดยค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทและประเทศต้นทางของแรงงาน (เช่น เมียนมา, ลาว, กัมพูชา) โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในช่วง 10,000 - 20,000 บาทต่อคน 2. ค่าธรรมเนียมภาครัฐที่ต้องจ่าย ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน: ประมาณ 1,900 บาท (สำหรับ 2 ปี) ค่าธรรมเนียมวีซ่า: ประมาณ 500 บาท (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของวีซ่า) ค่าธรรมเนียมพิธีการตรวจคนเข้าเมือง: ประมาณ 500 บาท ค่าตรวจสุขภาพและทำประกันสุขภาพ: ประมาณ 2,000 - 3,000 บาทต่อคนต่อปี เพื่อเป็นหลักประกันสุขภาพตามกฎหมาย   ค่าใช้จ่ายรายเดือนและรายปีที่นายจ้างต้องรับผิดชอบ หลังจากที่แรงงานเริ่มทำงานแล้ว นายจ้างยังมีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและเพื่อให้แรงงานสามารถทำงานได้อย่างปกติ 1. ค่าจ้างรายเดือน ค่าจ้างแรงงานต่างด้าวต้องเป็นไปตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดในแต่ละพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศอยู่ที่ 300-330 บาทต่อวัน หรือประมาณ 9,000 - 10,000 บาทต่อเดือน (อาจสูงกว่านี้ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและฝีมือ) 2. ค่าประกันสังคม นายจ้างมีหน้าที่ต้องขึ้นทะเบียนและนำส่งเงินสมทบประกันสังคมให้กับแรงงานต่างด้าวทุกคนที่มีใบอนุญาตทำงานและมีรายได้ โดยนายจ้างและลูกจ้างต้องจ่ายเงินสมทบฝ่ายละ 5% ของค่าจ้าง แต่สูงสุดไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน 3. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ค่าต่ออายุใบอนุญาตทำงานและวีซ่า: ทุกๆ 2 ปี นายจ้างต้องดำเนินการต่ออายุเอกสารให้แรงงาน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคล้ายกับครั้งแรก ค่าที่พักและสวัสดิการ: หากนายจ้างจัดหาที่พักหรือสวัสดิการอื่นๆ ให้กับแรงงาน เช่น อาหาร ค่าเดินทาง หรือค่าจ้างล่วงเวลา ก็ต้องรวมอยู่ในค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วย ค่าปรับและค่าธรรมเนียมล่าช้า: หากมีการดำเนินการใดๆ ที่ล่าช้าหรือไม่ถูกต้อง อาจมีค่าปรับจากหน่วยงานราชการ   สรุปค่าใช้จ่ายโดยประมาณ (ต่อ 1 คน) เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ลองคำนวณค่าใช้จ่ายโดยประมาณสำหรับการจ้างคนงานต่างด้าว 1 คน ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น (ประมาณการ) ค่าดำเนินการบริษัทจัดหา: 15,000 บาท ค่าธรรมเนียมภาครัฐ: 5,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายเริ่มต้น: 20,000 บาท   ค่าใช้จ่ายรายเดือน (ประมาณการ) ค่าจ้างขั้นต่ำ: 9,500 บาท เงินสมทบประกันสังคม: 750 บาท อื่นๆ (เช่น ที่พัก, อาหาร): 2,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายรายเดือน: 12,250 บาท   ค่าใช้จ่ายรายปี (ประมาณการ) ค่าประกันสุขภาพ: 3,000 บาท ค่าจ้างรายเดือน x 12 เดือน: 147,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายรายปี: 150,000 บาท ตัวเลขข้างต้นเป็นเพียงค่าประมาณการเท่านั้น ซึ่งค่าใช้จ่ายจริงอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น คุณภาพแรงงาน สัญชาติ และข้อตกลงกับบริษัทจัดหา อย่างไรก็ตาม การคำนวณอย่างรอบคอบจะช่วยให้นายจ้างวางแผนการเงินได้อย่างถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมาย เพื่อการจ้างงานที่ราบรื่นและยั่งยืน   นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงานต่างด้าวครบวงจร การจัดการเอกสารและขั้นตอนที่ซับซ้อนเกี่ยวกับการจ้างงานต่างด้าวอาจเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับหลายๆ ธุรกิจ บริษัท นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU มาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด คือผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหาแรงงานต่างด้าวอย่างครบวงจร เรามีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมดูแลทุกขั้นตอนให้คุณตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การคัดสรรแรงงานที่มีคุณภาพจากประเทศเมียนมา, ลาว และกัมพูชา ไปจนถึงการดำเนินการด้านเอกสารและพิธีการทางกฎหมายทั้งหมด ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้แรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีคุณภาพ พร้อมเริ่มต้นทำงานได้อย่างรวดเร็วและไร้กังวล     ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

รียบเทียบ MOU • บัตรชมพู • การพิสูจน์สัญชาติ เข้าใจแรงงานต่างด้าวแต่ละระบบต่างกันอย่างไร ชัดเจนใน 5 นาที ในแวดวงธุรกิจที่มีการจ้างงานคนงานต่างด้าว การทำความเข้าใจประเภทของแรงงานเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องของสถานะทางกฎหมายที่ส่งผลโดยตรงต่อสิทธิและหน้าที่ของทั้งนายจ้างและลูกจ้าง คำว่า MOU, บัตรชมพู และพิสูจน์สัญชาติ เป็นคำที่มักได้ยินบ่อยๆ แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบถึงความแตกต่างที่ชัดเจน บทความนี้จะอธิบายแต่ละประเภทให้เข้าใจง่ายขึ้น เพื่อให้การจ้างงานเป็นไปอย่างถูกต้องและราบรื่น MOU: ช่องทางนำเข้าแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย MOU (Memorandum of Understanding) คือรูปแบบการจ้างงานที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นมาตรฐานที่สุด โดยเป็นข้อตกลงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลประเทศต้นทาง (เช่น เมียนมา กัมพูชา ลาว) สำหรับการนําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU อย่างเป็นระบบและเป็นทางการ แรงงานที่เข้ามาในรูปแบบนี้จะมีเอกสารครบถ้วนตั้งแต่ต้น ทั้งหนังสือเดินทาง (Passport) วีซ่า และใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ซึ่งจะทำให้แรงงานสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายอย่างเต็มที่ บัตรชมพู: สถานะชั่วคราวเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน บัตรชมพู หรือที่เรียกกันติดปากตามสีของบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว คือเอกสารที่รัฐบาลไทยออกให้ในช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อเปิดโอกาสให้แรงงานที่ยังไม่มีเอกสารที่ถูกต้องได้มาขึ้นทะเบียนและทำงานอย่างถูกกฎหมายเป็นการชั่วคราว สถานะของบัตรชมพูมักเป็นระยะสั้นๆ และต้องได้รับการต่ออายุตามนโยบายของรัฐบาลในแต่ละช่วงเวลา ถือเป็นมาตรการพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมายในระยะสั้นและอำนวยความสะดวกให้นายจ้างสามารถจ้างงานได้อย่างถูกต้องในเบื้องต้น พิสูจน์สัญชาติ: ขั้นตอนสำคัญสู่การทำงานที่มั่นคง กระบวนการพิสูจน์สัญชาติคือขั้นตอนที่คนงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในสถานะชั่วคราว (เช่น ผู้ถือบัตรชมพู) จะต้องดำเนินการเพื่อขอเอกสารประจำตัวจากประเทศต้นทางของตนเอง (เช่น หนังสือเดินทางหรือเอกสารเดินทาง) เมื่อแรงงานได้รับการพิสูจน์สัญชาติแล้ว จะสามารถเปลี่ยนสถานะและยื่นขอใบอนุญาตทำงานแบบระยะยาวได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการเปลี่ยนสถานะจากแรงงานชั่วคราวให้เป็นแรงงานที่ถูกต้องตามระบบ MOU เพื่อการทำงานที่ยั่งยืนและมั่นคงต่อไป สรุปความแตกต่างที่สำคัญ MOU: เป็นกระบวนการนำเข้าจากต้นทางอย่างถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่แรก บัตรชมพู: เป็นมาตรการชั่วคราวที่ใช้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า พิสูจน์สัญชาติ: คือขั้นตอนการทำให้แรงงานที่เข้ามาในสถานะชั่วคราวสามารถมีเอกสารจากประเทศตนเองเพื่อเข้าสู่ระบบ MOU ได้ในที่สุด ดังนั้น นายจ้างและคนงานต่างด้าว ควรทำความเข้าใจสถานะของตนเองอย่างถ่องแท้ เพื่อให้แน่ใจว่าการจ้างงานเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมายอย่างครบถ้วน ให้เรื่องแรงงานต่างด้าวเป็นเรื่องง่ายด้วย Ten Mile Labor Group ด้วยความซับซ้อนของขั้นตอนและข้อกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การมีที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ บริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมเป็นตัวช่วยสำคัญของคุณ เรามีบริการครบวงจรตั้งแต่การให้คำปรึกษา การดำเนินการขออนุญาตและเอกสารที่เกี่ยวข้องในทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น MOU, การพิสูจน์สัญชาติ หรือการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน เพื่อให้มั่นใจว่าการจ้างงานคนงานต่างด้าวของคุณจะเป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้อง และเป็นธรรม   ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

สรุป 5 ปัญหาที่แรงงานต่างด้าวเจอบ่อย พร้อมแนะนำช่องทางติดต่อและวิธีขอความช่วยเหลือที่ถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับคนงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย การเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างแดนไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายมากมาย ทั้งเรื่องกฎหมาย ภาษา และการปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ การรู้เท่าทันปัญหาและช่องทางในการขอความช่วยเหลือจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบและเพื่อให้ชีวิตการทำงานในไทยเป็นไปอย่างราบรื่น บทความนี้ได้รวบรวม 5 ปัญหาหลักที่แรงงานต่างด้าวพบบ่อย พร้อมแนะนำช่องทางในการขอความช่วยเหลือที่ถูกต้องตามกฎหมาย 5 ปัญหาหลักที่ คนงานต่างด้าว ต้องเผชิญ 1. ปัญหาด้านเอกสารและกฎหมาย เป็นปัญหาพื้นฐานที่พบบ่อยที่สุด แรงงานบางรายอาจไม่มีเอกสารทำงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ไม่มีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) หรือวีซ่าที่หมดอายุ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกจับกุมและส่งกลับประเทศ อีกทั้งยังอาจถูกนายจ้างเอาเปรียบในเรื่องค่าจ้างและสวัสดิการได้ 2. ปัญหาด้านค่าจ้างและสวัสดิการ แรงงานต่างด้าวหลายคนอาจได้รับค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ หรือถูกหักค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น นอกจากนี้ยังอาจไม่ได้รับสวัสดิการขั้นพื้นฐาน เช่น การประกันสังคม หรือการเข้าถึงสิทธิในการรักษาพยาบาล 3. ปัญหาการถูกล่วงละเมิดและใช้ความรุนแรง แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ แต่ก็ยังคงมีรายงานการถูกล่วงละเมิดทางร่างกายและจิตใจจากนายจ้างหรือผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักไม่ถูกเปิดเผยเนื่องจากแรงงานส่วนใหญ่กลัวที่จะถูกไล่ออกหรือมีปัญหาด้านกฎหมาย 4. ปัญหาด้านที่อยู่อาศัยและสภาพการทำงาน บางครั้งที่พักอาศัยที่จัดสรรให้มีสภาพไม่เหมาะสม ไม่ถูกสุขอนามัย หรือมีสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย นอกจากนี้สภาพการทำงานก็อาจไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กฎหมายกำหนด ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน 5. ปัญหาด้านภาษาและการสื่อสาร อุปสรรคทางภาษาเป็นกำแพงสำคัญที่ทำให้ คนงานต่างด้าว ไม่สามารถเข้าใจสิทธิของตนเองได้เต็มที่ ไม่สามารถสื่อสารปัญหาที่เผชิญอยู่ หรือแม้กระทั่งไม่สามารถเข้ารับการอบรมด้านความปลอดภัยในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ   ช่องทางในการขอความช่วยเหลือที่ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อเผชิญกับปัญหาต่างๆ แรงงานต่างด้าวไม่ควรเพิกเฉย แต่ควรหาช่องทางในการขอความช่วยเหลือที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีหลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่พร้อมให้การสนับสนุน กระทรวงแรงงาน: มีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องสิทธิแรงงานโดยเฉพาะ สามารถขอคำปรึกษาหรือแจ้งปัญหาได้โดยตรง สำนักงานจัดหางาน: ให้บริการด้านการจัดหางานที่ถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถให้คำแนะนำด้านเอกสารและขั้นตอนต่างๆ ที่จำเป็น องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO): มีหลายองค์กรที่ทำงานเพื่อปกป้องสิทธิของแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะ เช่น มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ซึ่งเป็นแหล่งให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายและคดีความ ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของไปรษณีย์ไทย: บางครั้งมีการจัดตั้งจุดรับเรื่องร้องเรียนตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้แรงงานสามารถแจ้งปัญหาได้อย่างสะดวก   ให้การทำงานของแรงงานต่างด้าวเป็นเรื่องง่ายด้วย Ten Mile Labor Group เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาด้านเอกสารและกฎหมาย การเลือกใช้บริการจากบริษัทที่เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ บริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับนายจ้างและแรงงานต่างด้าว เรามีบริการนําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนามครบวงจร ไปจนถึงการดูแลความเป็นอยู่และสวัสดิการของแรงงาน เพื่อให้มั่นใจว่าคนงานต่างด้าวทุกคนจะได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรมและสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น   ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

เจาะลึกขั้นตอนและหลักเกณฑ์ที่นายจ้างต้องรู้ เพื่อขึ้นทะเบียนคนงานต่างด้าวให้ถูกต้องตามกฎหมาย การจ้างคนงานต่างด้าวในประเทศไทยจำเป็นต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันปัญหาด้านแรงงานและความมั่นคงของนายจ้าง หากฝ่าฝืนอาจถูกลงโทษทั้งในแง่ของกฎหมายแรงงานและการตรวจคนเข้าเมือง บทความนี้จะสรุปเงื่อนไขสำคัญสำหรับการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบถูกกฎหมาย พร้อมแนะแนวทางปฏิบัติสำหรับนายจ้างและสถานประกอบการอย่างชัดเจน ความสำคัญของการขึ้นทะเบียนคนงานต่างด้าวอย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงทางกฎหมายและคุ้มครองสิทธิแรงงาน การขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามระเบียบของกระทรวงแรงงานจะทำให้นายจ้างได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย และยังช่วยให้คนงานต่างด้าวได้รับสิทธิพื้นฐานด้านค่าจ้าง ความปลอดภัย และการเข้าถึงบริการสุขภาพ ลดความเสี่ยงจากการถูกจับกุม ตรวจสอบ หรือเสียค่าปรับในกรณีจ้างแรงงานผิดกฎหมาย ประเภทของคนงานต่างด้าวที่สามารถขึ้นทะเบียนได้ การจ้างแรงงานผ่านระบบ MOU มีข้อดีหลากหลายที่ช่วยให้นายจ้างดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น ทั้งในด้านกฎหมาย ความปลอดภัย และความคุ้มค่า 1. แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ: กัมพูชา ลาว เมียนมา (CLM) ถือเป็นกลุ่มที่ได้รับการผ่อนผันให้ทำงานในประเทศไทย โดยสามารถขึ้นทะเบียนได้ทั้งผ่านระบบ MOU (Memorandum of Understanding) และการผ่อนผันตามมติคณะรัฐมนตรี 2. แรงงาน MOU (จ้างผ่านข้อตกลงระหว่างรัฐ) แรงงานประเภทนี้จะได้รับอนุญาตให้ทำงานอย่างถูกต้องตามระบบของรัฐ ซึ่งมีขั้นตอนชัดเจน ตั้งแต่การยื่นคำร้องไปจนถึงการออกใบอนุญาตทำงาน เงื่อนไขและขั้นตอนการขึ้นทะเบียนคนงานต่างด้าว เงื่อนไขทั่วไปสำหรับนายจ้าง ต้องมีสถานประกอบการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องยื่นขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ให้กับลูกจ้างต่างด้าวภายในระยะเวลาที่กำหนด ต้องจัดทำสัญญาจ้างงานและประกันสุขภาพให้แรงงาน ขั้นตอนสำคัญในการขึ้นทะเบียน ยื่นคำร้องผ่านระบบออนไลน์ ของกระทรวงแรงงานหรือสำนักงานจัดหางานจังหวัด จัดเตรียมเอกสารของนายจ้างและลูกจ้าง เช่น หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตเข้าเมือง รูปถ่าย และใบรับรองแพทย์ เข้ารับการตรวจสุขภาพและลงทะเบียนประกันสุขภาพ (ในบางกรณีต้องซื้อประกันสุขภาพภาคเอกชน) ชำระค่าธรรมเนียมและรับใบอนุญาตทำงาน (ใบสีชมพูหรือบัตรอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าว) ระยะเวลาและเงื่อนไขในการต่ออายุใบอนุญาต ระยะเวลาการอนุญาต โดยทั่วไป แรงงานที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องจะได้รับอนุญาตให้ทำงานเป็นระยะเวลา 2 ปี และสามารถต่ออายุได้ตามประกาศของภาครัฐในแต่ละปี การต่ออายุ ต้องดำเนินการต่ออายุล่วงหน้าก่อนใบอนุญาตหมดอายุ ต้องไม่มีประวัติการกระทำผิดกฎหมายแรงงานหรือกฎหมายคนเข้าเมือง ต้องผ่านการตรวจสุขภาพและมีที่พักอาศัยชัดเจน ข้อควรระวังในการจ้างคนงานต่างด้าว ห้ามจ้างแรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานโดยเด็ดขาด ห้ามให้แรงงานทำงานนอกเหนือจากที่ระบุในใบอนุญาต ต้องแจ้งสำนักงานจัดหางานทันทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสถานภาพ เช่น เปลี่ยนนายจ้าง เลิกจ้าง หรือเดินทางกลับประเทศ ขึ้นทะเบียนคนงานต่างด้าวเพื่อความถูกต้องและปลอดภัย การจ้างคนงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมายไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงให้กับนายจ้าง แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานที่ดีในสถานประกอบการและส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน หากท่านเป็นนายจ้างที่ต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว ควรศึกษาขั้นตอนอย่างละเอียด และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงานหรือนิติกรที่มีความรู้ด้านกฎหมายแรงงานเพื่อความมั่นใจในการดำเนินการ มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

ทำความเข้าใจระบบ MOU ในการจ้างแรงงานต่างด้าวแบบถูกกฎหมาย พร้อมเหตุผลที่ช่วยลดความเสี่ยงธุรกิจ ในยุคที่แรงงานฝีมือมีความต้องการสูง การจ้างคนงานต่างด้าว กลายเป็นทางเลือกสำคัญของหลายธุรกิจ โดยเฉพาะในภาคการผลิต เกษตรกรรม ก่อสร้าง และบริการ แต่การจ้างแรงงานเหล่านี้จำเป็นต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมคือการจ้างแรงงานต่างด้าวผ่านระบบ MOU ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางที่ปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุดสำหรับนายจ้างในระยะยาว MOU คืออะไร? ข้อตกลงแบบรัฐต่อรัฐเพื่อการจ้างแรงงานที่ถูกต้อง MOU (Memorandum of Understanding) คือ ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลของประเทศไทยกับประเทศต้นทางของแรงงาน เช่น เมียนมา ลาว และกัมพูชา เพื่อส่งเสริมให้มีการจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้การควบคุมดูแลของทั้งสองประเทศ โดยกระทรวงแรงงานจะเป็นผู้กำกับดูแลกระบวนการทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบประวัติแรงงาน การตรวจสุขภาพ การขออนุญาตทำงาน และการอนุมัติวีซ่า กระบวนการจ้างงานแบบ MOU เป็นอย่างไร? กระบวนการเริ่มต้นจากความต้องการแรงงานของนายจ้างในประเทศไทย จากนั้นจะมีการประสานงานผ่านหน่วยงานของรัฐเพื่อคัดเลือกและส่งแรงงานจากประเทศต้นทางเข้ามาอย่างถูกต้องตามเงื่อนไข MOU ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลา 30–60 วัน และแรงงานจะได้รับใบอนุญาตทำงานอย่างถูกกฎหมายตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา ข้อดีของการจ้างคนงานต่างด้าวแบบ MOU ที่นายจ้างควรรู้ การจ้างแรงงานผ่านระบบ MOU มีข้อดีหลากหลายที่ช่วยให้นายจ้างดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น ทั้งในด้านกฎหมาย ความปลอดภัย และความคุ้มค่า ปลอดภัยจากการตรวจสอบและบทลงโทษทางกฎหมาย เนื่องจากแรงงานผ่านระบบ MOU ได้รับอนุญาตจากรัฐอย่างถูกต้อง นายจ้างจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกจับปรับ หรือปัญหาจากการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของบริษัท ลดความเสี่ยงจากแรงงานหลบหนีหรือขาดงาน แรงงานที่เข้ามาตามระบบ MOU จะมีข้อมูลประวัติชัดเจนและมีการคัดกรองเบื้องต้นโดยรัฐ ทำให้มีแรงจูงใจในการทำงานอย่างต่อเนื่อง และลดปัญหาการขาดงานหรือหลบหนีไปทำงานที่อื่น มีความมั่นคงและสามารถบริหารจัดการได้ในระยะยาว แรงงานแบบ MOU จะได้รับอนุญาตให้ทำงานได้ถึง 2 ปี และสามารถต่อสัญญาได้อีก 2 ปี ทำให้นายจ้างสามารถวางแผนการผลิตหรือให้บริการได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเปลี่ยนแรงงานบ่อยครั้ง ทำไมคนงานต่างด้าวผ่าน MOU ถึงคุ้มค่าในระยะยาว? แม้การจ้างแรงงานต่างด้าวแบบ MOU อาจมีค่าใช้จ่ายในกระบวนการเริ่มต้น เช่น ค่าดำเนินการ ค่าตรวจสุขภาพ และค่าธรรมเนียมราชการ แต่เมื่อพิจารณาในระยะยาวแล้วถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง ประหยัดกว่าการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย หากเทียบกับค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการจ้างแรงงานเถื่อน เช่น การโดนจับ ปรับ หรือแรงงานหลบหนี การจ้างแบบ MOU ช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรับสมัครใหม่ซ้ำๆ เสริมภาพลักษณ์องค์กรและความน่าเชื่อถือ ในยุคที่การดำเนินธุรกิจต้องควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม การจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตาม MOU จะสะท้อนถึงความโปร่งใสและจริยธรรมขององค์กร ซึ่งส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ในสายตาลูกค้า พันธมิตร และสังคม การจ้างแรงงานแบบ MOU เหมาะกับใคร? การจ้างแรงงานต่างด้าวผ่านระบบ MOU เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานจำนวนมากหรือระยะยาว เช่น โรงงานผลิตสินค้า โรงแรม รีสอร์ต ฟาร์มเกษตร และบริษัทก่อสร้าง เพราะจะช่วยให้การจัดการแรงงานเป็นระบบมากขึ้น ลดความเสี่ยง และส่งเสริมการเติบโตของกิจการในระยะยาว จ้างแรงงานต่างด้าวอย่างมั่นใจ เลือกระบบ MOU การจ้างคนงานต่างด้าวผ่านระบบ MOU เป็นแนวทางที่ปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมาย และคุ้มค่าทั้งในแง่ของต้นทุนและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ช่วยให้นายจ้างสามารถจัดการแรงงานได้อย่างมั่นคง มีแหล่งแรงงานคุณภาพ และหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจตามมาในอนาคต หากคุณกำลังมองหาแนวทางที่เชื่อถือได้ในการจัดหาคนงานต่างด้าว ระบบ MOU คือคำตอบที่ดีที่สุด มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแรงงานเมียนมา ลาว และกัมพูชา ในมุมมองของนายจ้างไทย ในประเทศไทย “คนงานต่างด้าว” ถือเป็นกำลังแรงงานสำคัญ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม ก่อสร้าง เกษตรกรรม และบริการ ซึ่งแรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่ที่เข้ามาทำงานในไทยมักมาจาก 3 ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา ลาว และกัมพูชา บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงความแตกต่างของคนงานต่างด้าวจากทั้ง 3 สัญชาติในแง่มุมของการจ้างงาน เพื่อช่วยให้นายจ้างตัดสินใจเลือกแรงงานที่เหมาะสมกับประเภทธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับคนงานต่างด้าว ประเทศไทยมีการควบคุมและออกกฎระเบียบเกี่ยวกับการจ้างงานคนต่างด้าวอย่างเข้มงวด ภายใต้กฎหมายแรงงานและพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา โดยคนงานต่างด้าวที่สามารถเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายจะต้องผ่านขั้นตอนการขึ้นทะเบียน การตรวจสุขภาพ และการทำหนังสือเดินทางหรือบัตรผ่านแดน ซึ่งในกระบวนการเหล่านี้ รัฐบาลไทยได้มีความร่วมมือกับรัฐบาลของทั้ง 3 ประเทศเพื่อจัดระบบให้เป็นระเบียบมากขึ้น ความแตกต่างด้านคุณสมบัติพื้นฐานของแรงงาน 3 สัญชาติ คนงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา แรงงานจากเมียนมามีจำนวนมากที่สุดในไทย ด้วยเหตุผลด้านภูมิศาสตร์ ภาษา และวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะในภาคตะวันตกและภาคใต้ของประเทศ จุดเด่นของแรงงานเมียนมาคือความอดทน ขยัน และมีทักษะด้านงานช่างหรืองานหนัก เช่น ก่อสร้าง ต่อเรือ และเกษตรกรรม อย่างไรก็ตาม อาจมีอุปสรรคด้านภาษา เนื่องจากภาษาพูดแตกต่างจากไทยอย่างชัดเจน ทำให้ต้องใช้เวลาในการฝึกสื่อสาร คนงานต่างด้าวสัญชาติลาว คนลาวมีจุดเด่นด้านภาษาและวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกับไทยมาก โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้การสื่อสารและปรับตัวในสภาพแวดล้อมการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น แรงงานลาวมักนิยมทำงานในภาคบริการ งานร้านอาหาร และงานแม่บ้าน โดยรวมมีบุคลิกสุภาพ และเรียนรู้งานได้เร็ว แต่จำนวนคนลาวที่เข้ามาทำงานอาจน้อยกว่าเมียนมาและกัมพูชา เนื่องจากมีโอกาสทำงานในประเทศตนเองมากขึ้น คนงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา แรงงานจากกัมพูชาเป็นอีกกลุ่มสำคัญที่นิยมทำงานในภาคกลางและตะวันออกของไทย โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรม จุดแข็งของแรงงานกัมพูชาคือความสามารถในการปรับตัวสูง และสามารถเรียนรู้การใช้ภาษาไทยได้ดีในระดับหนึ่งเมื่อทำงานต่อเนื่อง จุดที่ต้องระวังคือแรงงานกัมพูชาบางส่วนอาจเข้ามาทำงานอย่างไม่ถูกกฎหมาย หากไม่มีการตรวจสอบเอกสารอย่างเคร่งครัด ความต่างด้านขั้นตอนการจ้างงานและข้อกฎหมายที่ควรรู้ ระบบ MOU และการจ้างงานถูกต้องตามกฎหมาย การนำเข้าแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 สัญชาติโดยถูกต้องผ่านระบบ MOU (Memorandum of Understanding) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดส่งแรงงานอย่างเป็นระบบ นายจ้างจะต้องยื่นความต้องการแรงงานไปยังกรมการจัดหางาน และเมื่อได้รับอนุมัติจึงสามารถว่าจ้างแรงงานต่างด้าวได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ความแตกต่างด้านเอกสารและการประสานกับสถานทูต แต่ละประเทศมีขั้นตอนด้านเอกสารและประสานงานต่างกัน เช่น เมียนมาเน้นใช้หนังสือเดินทาง (passport) และต้องผ่านระบบจัดส่งของรัฐบาล ส่วนกัมพูชาและลาวอาจใช้หนังสือเดินทางหรือบัตรผ่านแดน (border pass) และในบางกรณีสามารถดำเนินการผ่านช่องทางเร่งด่วนกับตัวแทนที่ได้รับอนุญาตจากสถานทูต ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกคนงานต่างด้าวให้เหมาะสม การเลือกคนงานต่างด้าวไม่ควรดูเพียงต้นทุนค่าแรง แต่ควรพิจารณาจากความเหมาะสมกับลักษณะงาน ความสามารถในการเรียนรู้ ภาษา วัฒนธรรม และประสบการณ์ โดยแรงงานจากเมียนมาอาจเหมาะกับงานที่ต้องใช้แรง งานหนัก หรือเชิงช่าง ส่วนแรงงานลาวและกัมพูชามีความเหมาะสมกับงานบริการหรือในภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการความละเอียดอ่อนและสื่อสารกับคนไทยบ่อยครั้ง เข้าใจความต่างเพื่อการจ้างงานที่มีประสิทธิภาพ แรงงานต่างด้าวจากเมียนมา ลาว และกัมพูชา ต่างมีจุดเด่น จุดด้อย และลักษณะเฉพาะตัวที่นายจ้างควรเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อนตัดสินใจว่าจ้าง เพื่อให้ได้แรงงานที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจมากที่สุด ทั้งในแง่ของทักษะ ความสามารถในการปรับตัว และการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากเลือกและจัดการได้อย่างเหมาะสม การจ้างคนงานต่างด้าวจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่จะกลายเป็นโอกาสในการเสริมสร้างกำลังแรงงานที่มีคุณภาพในระยะยาว มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

เปิดข้อมูลสิทธิแรงงานต่างด้าว คนงานพม่าเข้าระบบประกันสังคมไทยได้หรือไม่ มีขั้นตอนอย่างไร และต้องมีเอกสารอะไรบ้าง การจ้างแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะคนงานพม่าถือเป็นเรื่องสำคัญในภาคอุตสาหกรรมและบริการของไทย แต่หลายคนยังสงสัยว่า แรงงานเหล่านี้มีสิทธิ์เข้าระบบประกันสังคมของไทยหรือไม่? บทความนี้จะอธิบายอย่างชัดเจนถึงสิทธิ หน้าที่ และขั้นตอนการเข้าสู่ระบบประกันสังคมของคนงานพม่าในประเทศไทย พร้อมคำแนะนำจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อให้ทั้งนายจ้างและแรงงานเข้าใจสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับอย่างครบถ้วน คนงานพม่าคือใคร และสถานะทางกฎหมายในการทำงานในไทย นิยามของคนงานพม่าตามกฎหมายไทย คนงานพม่า หมายถึงแรงงานที่มีสัญชาติเมียนมาและได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งต้องมีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และผ่านกระบวนการขึ้นทะเบียนตามระบบ MOU หรือระบบผ่อนผันแรงงานต่างด้าวตามมติ ครม. ประเภทของการเข้ามาทำงาน แรงงานพม่าในไทยสามารถเข้ามาทำงานได้ 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ ระบบ MOU หรือการนำเข้าแรงงานโดยรัฐต่อรัฐ ซึ่งเป็นการจ้างงานแบบถูกกฎหมายครบถ้วน ระบบผ่อนผันหรือพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งครอบคลุมแรงงานที่เคยเข้ามาทำงานก่อนหน้านี้และได้รับอนุญาตให้ทำงานชั่วคราวโดยต้องทำเอกสารให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด คนงานพม่าสามารถเข้าระบบประกันสังคมในไทยได้หรือไม่? กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประกันสังคมของคนต่างด้าว ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แรงงานต่างด้าวที่ทำงานในไทยอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นแรงงานพม่า ลาว หรือกัมพูชา หากได้รับอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายไทย ถือว่า มีสิทธิและหน้าที่ในการเข้าสู่ระบบประกันสังคมเทียบเท่ากับแรงงานไทย ข้อกำหนดและขั้นตอนในการขึ้นทะเบียน นายจ้างมีหน้าที่ขึ้นทะเบียนคนงานพม่าเข้าสู่ระบบประกันสังคม ภายใน 30 วันหลังเริ่มงาน โดยต้องมีเอกสารสำคัญ ได้แก่ หนังสือเดินทาง หรือบัตรประจำตัวคนต่างด้าว ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) แบบฟอร์มขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส. 1-03) เมื่อขึ้นทะเบียนแล้ว แรงงานพม่าจะได้รับเลขที่ประกันสังคม และสามารถใช้สิทธิต่างๆ ได้ทันทีตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด สิทธิประโยชน์ของคนงานพม่าภายใต้ระบบประกันสังคม คนงานพม่าที่เข้าสู่ระบบประกันสังคมจะได้รับสิทธิต่างๆ ดังนี้ ค่ารักษาพยาบาล และบริการสาธารณสุขตามสถานพยาบาลที่เลือกไว้ เงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีเจ็บป่วยหรือคลอดบุตร เงินชดเชยกรณีทุพพลภาพหรือเสียชีวิต เงินสงเคราะห์บุตร เงินชราภาพ (กรณีอยู่ในระบบครบ 180 เดือน) สิทธิประโยชน์เหล่านี้ช่วยให้แรงงานต่างด้าวมีความมั่นคงในชีวิต และยังลดภาระของนายจ้างในกรณีที่ลูกจ้างเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ข้อควรรู้เพิ่มเติมสำหรับนายจ้างและคนงานพม่า การหักเงินสมทบและบทบาทของนายจ้าง การส่งเงินสมทบประกันสังคม แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ นายจ้าง 5% ลูกจ้าง 5% รัฐบาล 2.75% โดยเงินสมทบนี้จะถูกหักจากเงินเดือนทุกเดือน นายจ้างต้องส่งต่อสำนักงานประกันสังคมภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป การรักษาสิทธิกรณีเปลี่ยนงานหรือว่างงาน หากคนงานพม่าเปลี่ยนนายจ้าง หรือว่างงานระหว่างสัญญา พวกเขายังสามารถรักษาสิทธิประกันสังคมได้ในระยะเวลาหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขให้แจ้งสำนักงานประกันสังคมภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อคงสถานะผู้ประกันตนมาตรา 39 หรือสมัครใหม่ภายใต้มาตราอื่น คนงานพม่าสามารถเข้าสู่ระบบประกันสังคมได้อย่างถูกต้อง คนงานพม่าที่ทำงานในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีสิทธิและหน้าที่ในการเข้าสู่ระบบประกันสังคมเทียบเท่าคนไทย นายจ้างควรดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์ทั้งต่อแรงงานและตัวองค์กรเอง สิทธิประโยชน์จากประกันสังคมจะช่วยสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตของแรงงานต่างด้าว พร้อมส่งเสริมให้ระบบแรงงานในประเทศมีความเป็นธรรมและยั่งยืน มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

วิเคราะห์ค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานพม่าทุกกลุ่มงานในไทย ตั้งแต่แรงงานทั่วไป แม่บ้าน พนักงานโรงงาน จนถึงงานก่อสร้าง ทำไมคนงานพม่าถึงได้รับความนิยมในตลาดแรงงานไทย? ในปัจจุบันคนงานพม่าถือเป็นแรงงานต่างด้าวที่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในภาคแรงงานที่ต้องใช้กำลัง เช่น ก่อสร้าง โรงงาน อุตสาหกรรมการผลิต เกษตรกรรม และบริการด้านแรงงานทั่วไป ความขยัน อดทน และสามารถเรียนรู้ทักษะพื้นฐานได้เร็ว ทำให้คนงานพม่ากลายเป็นกำลังหลักในหลายธุรกิจทั่วประเทศ ค่าแรงขั้นต่ำของคนงานพม่าในประเทศไทย ค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมายไทย ค่าแรงขั้นต่ำของคนงานพม่าที่ทำงานในประเทศไทยจะอ้างอิงตามกฎหมายแรงงานไทย ซึ่งปัจจุบัน (ข้อมูลปี 2567) อยู่ที่ประมาณ 330–370 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับจังหวัดที่ทำงาน โดยไม่แยกเชื้อชาติหรือสัญชาติ นั่นหมายความว่า คนงานพม่าที่ได้รับอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะได้รับค่าจ้างเท่ากับแรงงานไทย ปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับค่าแรง แม้จะมีการกำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำ แต่ในความเป็นจริง ค่าจ้างที่ได้รับอาจแตกต่างกันตามทักษะ ประเภทงาน ลักษณะสัญญาจ้าง และนายจ้างบางรายที่เสนอค่าตอบแทนสูงขึ้นเพื่อรักษาคนงานที่มีฝีมือ ปัจจัยอื่นๆ เช่น ความสามารถด้านภาษา ความชำนาญในสายงาน และความพร้อมในการทำงานล่วงเวลา ก็อาจส่งผลต่อค่าจ้างที่คนงานพม่าได้รับจริง เปรียบเทียบค่าแรงคนงานพม่าตามประเภทงาน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น เราสามารถเปรียบเทียบอัตราค่าแรงเฉลี่ยที่คนงานพม่าได้รับในแต่ละสายงานได้ดังนี้: 1. งานก่อสร้าง งานก่อสร้างเป็นหนึ่งในสายงานที่นิยมจ้างคนงานพม่ามากที่สุด ค่าแรงเฉลี่ยอยู่ที่ 350–500 บาทต่อวัน หรือมากกว่านั้นหากมีทักษะเช่นการฉาบปูน วางเหล็ก หรืองานโครงสร้าง โดยปกติงานนี้มักมีค่าแรงสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำเพื่อดึงดูดคนงานที่มีความสามารถ 2. งานในโรงงานอุตสาหกรรม คนงานพม่าที่ทำงานในโรงงานมักได้รับค่าแรงตามขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด แต่หากทำงานเป็นกะหรือมีทักษะเฉพาะ ค่าแรงจะสูงขึ้น เช่น พนักงานฝ่ายผลิตทั่วไปอาจได้วันละ 330–370 บาท ส่วนพนักงานควบคุมเครื่องจักรอาจได้รับมากถึง 450–550 บาทต่อวัน 3. งานเกษตรกรรม แรงงานพม่าในภาคเกษตรมักเป็นงานชั่วคราวหรือจ้างเหมา เช่น เก็บผลไม้ ดำนา หรือทำสวน ค่าจ้างจะขึ้นอยู่กับผลผลิตหรือจำนวนวันทำงาน ค่าแรงเฉลี่ยอยู่ที่ 300–400 บาทต่อวัน หรืออาจคิดเป็นรายชิ้นตามข้อตกลง 4. งานแม่บ้านและดูแลผู้สูงอายุ งานประเภทนี้มีทั้งแบบอยู่ประจำและไปกลับ โดยเฉลี่ยค่าจ้างอยู่ที่ 9,000–15,000 บาทต่อเดือนสำหรับแม่บ้าน และ 12,000–18,000 บาทต่อเดือนสำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุ หากสื่อสารภาษาไทยได้ดีหรือมีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วย ค่าแรงจะสูงขึ้น สิทธิ์และความคุ้มครองของคนงานพม่าตามกฎหมายไทย แม้จะเป็นแรงงานข้ามชาติ แต่คนงานพม่าที่ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน เช่น สิทธิ์ในการได้รับค่าแรงขั้นต่ำ วันหยุดพักผ่อน วันลาป่วย รวมถึงสิทธิในการได้รับประกันสังคม นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีนโยบายจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว โดยมีการเปิดให้ลงทะเบียนแรงงานในระบบ MOU เพื่อให้คนงานพม่าได้รับสิทธิ์ที่ชัดเจนและป้องกันการเอาเปรียบจากนายจ้าง ค่าแรงคนงานพม่าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แม้ว่ากฎหมายไทยจะกำหนดค่าแรงขั้นต่ำอย่างชัดเจน แต่ในภาคปฏิบัติ ค่าแรงของคนงานพม่าจะแตกต่างกันตามลักษณะงาน ความชำนาญ และเงื่อนไขของนายจ้าง การเลือกใช้แรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างมั่นคง แต่ยังส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนงานพม่าในไทยอีกด้วย มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

รวม 5 ปัญหาสำคัญที่นายจ้างควรรู้ ก่อนจ้างแรงงานพม่า ทั้งเรื่องเอกสารผิดกฎหมาย การสื่อสาร และความเข้าใจในวัฒนธรรม การจ้างคนงานพม่าถือเป็นทางเลือกยอดนิยมของภาคธุรกิจในไทย ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมก่อสร้าง แปรรูปอาหาร หรือบริการทั่วไป เพราะคนงานพม่ามีความขยัน อดทน และสามารถเรียนรู้ได้รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นายจ้างหลายรายก็พบเจอปัญหาต่าง ๆ ตามมา หากไม่มีการวางระบบหรือเตรียมความพร้อมที่ดีพอ บทความนี้จะสรุป 5 ปัญหาหลักที่พบบ่อยเมื่อจ้างแรงงานพม่า พร้อมแนวทางป้องกันเพื่อช่วยให้นายจ้างบริหารจัดการแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัญหาด้านเอกสารและสถานะการทำงาน คนงานพม่าหลายรายยังไม่มีเอกสารถูกต้อง หนึ่งในปัญหาหลักที่นายจ้างมักพบเมื่อเริ่มจ้างคนงานพม่า คือเรื่องของเอกสารที่ไม่ครบถ้วนหรือหมดอายุ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน หรือเอกสารการตรวจสุขภาพ ซึ่งหากไม่ตรวจสอบให้รอบคอบตั้งแต่ต้น อาจส่งผลให้บริษัทต้องรับผิดชอบตามกฎหมายแรงงานและกฎหมายคนเข้าเมือง วิธีแก้ไข ควรตรวจสอบสถานะเอกสารแรงงานอย่างละเอียดก่อนรับเข้าทำงาน และหากเป็นไปได้ ให้ใช้บริการบริษัทนำเข้าแรงงานที่มีใบอนุญาตถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง ปัญหาด้านภาษาและการสื่อสาร การเข้าใจผิดจากภาษาอาจนำไปสู่ความเสียหาย แม้คนงานพม่าหลายคนจะสามารถเข้าใจภาษาไทยได้ในระดับพื้นฐาน แต่การสื่อสารที่ซับซ้อนยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความแม่นยำ หากสื่อสารผิดพลาด อาจเกิดความเสียหายต่อสินค้า ความปลอดภัย หรือประสิทธิภาพการทำงาน วิธีแก้ไข นายจ้างควรจัดอบรมหรือให้สื่อประกอบ เช่น แผ่นภาพ คำสั่งงานที่เป็นภาษาพม่า หรือแต่งตั้งหัวหน้างานที่สามารถสื่อสารสองภาษาได้ เพื่อเป็นสะพานเชื่อมให้กับแรงงาน ปัญหาด้านสวัสดิการและสิทธิแรงงาน นายจ้างบางรายละเลยสิทธิพื้นฐานของคนงานพม่า แรงงานข้ามชาติ รวมถึงคนงานพม่ามีสิทธิในเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ เวลาทำงาน สวัสดิการ และความปลอดภัยเช่นเดียวกับแรงงานไทย แต่หลายครั้งพบว่านายจ้างไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้ ทำให้เกิดปัญหาการร้องเรียนและส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของบริษัท วิธีแก้ไข ควรศึกษากฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้องกับแรงงานข้ามชาติให้ชัดเจน และจัดให้มีสวัสดิการพื้นฐาน เช่น ประกันสังคม วันหยุดตามสิทธิ เพื่อสร้างแรงจูงใจและลดอัตราการลาออก ปัญหาด้านการรักษาคนงานไว้ในระยะยาว การโยกย้ายงานของแรงงานพม่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย คนงานพม่าบางรายเมื่อได้รับใบอนุญาตทำงานแล้ว มักมีแนวโน้มย้ายไปทำงานกับนายจ้างที่เสนอค่าจ้างสูงกว่า ทำให้ธุรกิจต้องเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่บ่อยครั้ง สูญเสียเวลาและต้นทุนในการฝึกอบรม วิธีแก้ไข สร้างแรงจูงใจด้วยสวัสดิการเพิ่มเติม มีเส้นทางความก้าวหน้าในงาน และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับแรงงาน โดยเปิดโอกาสให้แรงงานมีส่วนร่วมในการพัฒนาที่ทำงาน จะช่วยลดการลาออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจ้างคนงานพม่าให้ได้ผลดี ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของค่าแรงที่ถูกลง แต่ต้องอาศัยความเข้าใจในวัฒนธรรม กฎหมายแรงงาน การสื่อสาร และการดูแลสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างรอบด้าน หากนายจ้างมีการวางแผนที่ชัดเจน ตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้อง และมีการจัดการแรงงานอย่างเป็นระบบ ก็จะสามารถใช้ศักยภาพของแรงงานพม่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...