เจาะลึกขั้นตอนและหลักเกณฑ์ที่นายจ้างต้องรู้ เพื่อขึ้นทะเบียนคนงานต่างด้าวให้ถูกต้องตามกฎหมาย การจ้างคนงานต่างด้าวในประเทศไทยจำเป็นต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันปัญหาด้านแรงงานและความมั่นคงของนายจ้าง หากฝ่าฝืนอาจถูกลงโทษทั้งในแง่ของกฎหมายแรงงานและการตรวจคนเข้าเมือง บทความนี้จะสรุปเงื่อนไขสำคัญสำหรับการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบถูกกฎหมาย พร้อมแนะแนวทางปฏิบัติสำหรับนายจ้างและสถานประกอบการอย่างชัดเจน ความสำคัญของการขึ้นทะเบียนคนงานต่างด้าวอย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงทางกฎหมายและคุ้มครองสิทธิแรงงาน การขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามระเบียบของกระทรวงแรงงานจะทำให้นายจ้างได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย และยังช่วยให้คนงานต่างด้าวได้รับสิทธิพื้นฐานด้านค่าจ้าง ความปลอดภัย และการเข้าถึงบริการสุขภาพ ลดความเสี่ยงจากการถูกจับกุม ตรวจสอบ หรือเสียค่าปรับในกรณีจ้างแรงงานผิดกฎหมาย ประเภทของคนงานต่างด้าวที่สามารถขึ้นทะเบียนได้ การจ้างแรงงานผ่านระบบ MOU มีข้อดีหลากหลายที่ช่วยให้นายจ้างดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น ทั้งในด้านกฎหมาย ความปลอดภัย และความคุ้มค่า 1. แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ: กัมพูชา ลาว เมียนมา (CLM) ถือเป็นกลุ่มที่ได้รับการผ่อนผันให้ทำงานในประเทศไทย โดยสามารถขึ้นทะเบียนได้ทั้งผ่านระบบ MOU (Memorandum of Understanding) และการผ่อนผันตามมติคณะรัฐมนตรี 2. แรงงาน MOU (จ้างผ่านข้อตกลงระหว่างรัฐ) แรงงานประเภทนี้จะได้รับอนุญาตให้ทำงานอย่างถูกต้องตามระบบของรัฐ ซึ่งมีขั้นตอนชัดเจน ตั้งแต่การยื่นคำร้องไปจนถึงการออกใบอนุญาตทำงาน เงื่อนไขและขั้นตอนการขึ้นทะเบียนคนงานต่างด้าว เงื่อนไขทั่วไปสำหรับนายจ้าง ต้องมีสถานประกอบการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องยื่นขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ให้กับลูกจ้างต่างด้าวภายในระยะเวลาที่กำหนด ต้องจัดทำสัญญาจ้างงานและประกันสุขภาพให้แรงงาน ขั้นตอนสำคัญในการขึ้นทะเบียน ยื่นคำร้องผ่านระบบออนไลน์ ของกระทรวงแรงงานหรือสำนักงานจัดหางานจังหวัด จัดเตรียมเอกสารของนายจ้างและลูกจ้าง เช่น หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตเข้าเมือง รูปถ่าย และใบรับรองแพทย์ เข้ารับการตรวจสุขภาพและลงทะเบียนประกันสุขภาพ (ในบางกรณีต้องซื้อประกันสุขภาพภาคเอกชน) ชำระค่าธรรมเนียมและรับใบอนุญาตทำงาน (ใบสีชมพูหรือบัตรอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าว) ระยะเวลาและเงื่อนไขในการต่ออายุใบอนุญาต ระยะเวลาการอนุญาต โดยทั่วไป แรงงานที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องจะได้รับอนุญาตให้ทำงานเป็นระยะเวลา 2 ปี และสามารถต่ออายุได้ตามประกาศของภาครัฐในแต่ละปี การต่ออายุ ต้องดำเนินการต่ออายุล่วงหน้าก่อนใบอนุญาตหมดอายุ ต้องไม่มีประวัติการกระทำผิดกฎหมายแรงงานหรือกฎหมายคนเข้าเมือง ต้องผ่านการตรวจสุขภาพและมีที่พักอาศัยชัดเจน ข้อควรระวังในการจ้างคนงานต่างด้าว ห้ามจ้างแรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานโดยเด็ดขาด ห้ามให้แรงงานทำงานนอกเหนือจากที่ระบุในใบอนุญาต ต้องแจ้งสำนักงานจัดหางานทันทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสถานภาพ เช่น เปลี่ยนนายจ้าง เลิกจ้าง หรือเดินทางกลับประเทศ ขึ้นทะเบียนคนงานต่างด้าวเพื่อความถูกต้องและปลอดภัย การจ้างคนงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมายไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงให้กับนายจ้าง แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานที่ดีในสถานประกอบการและส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน หากท่านเป็นนายจ้างที่ต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว ควรศึกษาขั้นตอนอย่างละเอียด และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงานหรือนิติกรที่มีความรู้ด้านกฎหมายแรงงานเพื่อความมั่นใจในการดำเนินการ มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

ทำความเข้าใจระบบ MOU ในการจ้างแรงงานต่างด้าวแบบถูกกฎหมาย พร้อมเหตุผลที่ช่วยลดความเสี่ยงธุรกิจ ในยุคที่แรงงานฝีมือมีความต้องการสูง การจ้างคนงานต่างด้าว กลายเป็นทางเลือกสำคัญของหลายธุรกิจ โดยเฉพาะในภาคการผลิต เกษตรกรรม ก่อสร้าง และบริการ แต่การจ้างแรงงานเหล่านี้จำเป็นต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมคือการจ้างแรงงานต่างด้าวผ่านระบบ MOU ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางที่ปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุดสำหรับนายจ้างในระยะยาว MOU คืออะไร? ข้อตกลงแบบรัฐต่อรัฐเพื่อการจ้างแรงงานที่ถูกต้อง MOU (Memorandum of Understanding) คือ ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลของประเทศไทยกับประเทศต้นทางของแรงงาน เช่น เมียนมา ลาว และกัมพูชา เพื่อส่งเสริมให้มีการจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้การควบคุมดูแลของทั้งสองประเทศ โดยกระทรวงแรงงานจะเป็นผู้กำกับดูแลกระบวนการทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบประวัติแรงงาน การตรวจสุขภาพ การขออนุญาตทำงาน และการอนุมัติวีซ่า กระบวนการจ้างงานแบบ MOU เป็นอย่างไร? กระบวนการเริ่มต้นจากความต้องการแรงงานของนายจ้างในประเทศไทย จากนั้นจะมีการประสานงานผ่านหน่วยงานของรัฐเพื่อคัดเลือกและส่งแรงงานจากประเทศต้นทางเข้ามาอย่างถูกต้องตามเงื่อนไข MOU ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลา 30–60 วัน และแรงงานจะได้รับใบอนุญาตทำงานอย่างถูกกฎหมายตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา ข้อดีของการจ้างคนงานต่างด้าวแบบ MOU ที่นายจ้างควรรู้ การจ้างแรงงานผ่านระบบ MOU มีข้อดีหลากหลายที่ช่วยให้นายจ้างดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น ทั้งในด้านกฎหมาย ความปลอดภัย และความคุ้มค่า ปลอดภัยจากการตรวจสอบและบทลงโทษทางกฎหมาย เนื่องจากแรงงานผ่านระบบ MOU ได้รับอนุญาตจากรัฐอย่างถูกต้อง นายจ้างจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกจับปรับ หรือปัญหาจากการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของบริษัท ลดความเสี่ยงจากแรงงานหลบหนีหรือขาดงาน แรงงานที่เข้ามาตามระบบ MOU จะมีข้อมูลประวัติชัดเจนและมีการคัดกรองเบื้องต้นโดยรัฐ ทำให้มีแรงจูงใจในการทำงานอย่างต่อเนื่อง และลดปัญหาการขาดงานหรือหลบหนีไปทำงานที่อื่น มีความมั่นคงและสามารถบริหารจัดการได้ในระยะยาว แรงงานแบบ MOU จะได้รับอนุญาตให้ทำงานได้ถึง 2 ปี และสามารถต่อสัญญาได้อีก 2 ปี ทำให้นายจ้างสามารถวางแผนการผลิตหรือให้บริการได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเปลี่ยนแรงงานบ่อยครั้ง ทำไมคนงานต่างด้าวผ่าน MOU ถึงคุ้มค่าในระยะยาว? แม้การจ้างแรงงานต่างด้าวแบบ MOU อาจมีค่าใช้จ่ายในกระบวนการเริ่มต้น เช่น ค่าดำเนินการ ค่าตรวจสุขภาพ และค่าธรรมเนียมราชการ แต่เมื่อพิจารณาในระยะยาวแล้วถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง ประหยัดกว่าการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย หากเทียบกับค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการจ้างแรงงานเถื่อน เช่น การโดนจับ ปรับ หรือแรงงานหลบหนี การจ้างแบบ MOU ช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรับสมัครใหม่ซ้ำๆ เสริมภาพลักษณ์องค์กรและความน่าเชื่อถือ ในยุคที่การดำเนินธุรกิจต้องควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม การจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตาม MOU จะสะท้อนถึงความโปร่งใสและจริยธรรมขององค์กร ซึ่งส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ในสายตาลูกค้า พันธมิตร และสังคม การจ้างแรงงานแบบ MOU เหมาะกับใคร? การจ้างแรงงานต่างด้าวผ่านระบบ MOU เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานจำนวนมากหรือระยะยาว เช่น โรงงานผลิตสินค้า โรงแรม รีสอร์ต ฟาร์มเกษตร และบริษัทก่อสร้าง เพราะจะช่วยให้การจัดการแรงงานเป็นระบบมากขึ้น ลดความเสี่ยง และส่งเสริมการเติบโตของกิจการในระยะยาว จ้างแรงงานต่างด้าวอย่างมั่นใจ เลือกระบบ MOU การจ้างคนงานต่างด้าวผ่านระบบ MOU เป็นแนวทางที่ปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมาย และคุ้มค่าทั้งในแง่ของต้นทุนและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ช่วยให้นายจ้างสามารถจัดการแรงงานได้อย่างมั่นคง มีแหล่งแรงงานคุณภาพ และหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจตามมาในอนาคต หากคุณกำลังมองหาแนวทางที่เชื่อถือได้ในการจัดหาคนงานต่างด้าว ระบบ MOU คือคำตอบที่ดีที่สุด มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแรงงานเมียนมา ลาว และกัมพูชา ในมุมมองของนายจ้างไทย ในประเทศไทย “คนงานต่างด้าว” ถือเป็นกำลังแรงงานสำคัญ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม ก่อสร้าง เกษตรกรรม และบริการ ซึ่งแรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่ที่เข้ามาทำงานในไทยมักมาจาก 3 ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา ลาว และกัมพูชา บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงความแตกต่างของคนงานต่างด้าวจากทั้ง 3 สัญชาติในแง่มุมของการจ้างงาน เพื่อช่วยให้นายจ้างตัดสินใจเลือกแรงงานที่เหมาะสมกับประเภทธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับคนงานต่างด้าว ประเทศไทยมีการควบคุมและออกกฎระเบียบเกี่ยวกับการจ้างงานคนต่างด้าวอย่างเข้มงวด ภายใต้กฎหมายแรงงานและพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา โดยคนงานต่างด้าวที่สามารถเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายจะต้องผ่านขั้นตอนการขึ้นทะเบียน การตรวจสุขภาพ และการทำหนังสือเดินทางหรือบัตรผ่านแดน ซึ่งในกระบวนการเหล่านี้ รัฐบาลไทยได้มีความร่วมมือกับรัฐบาลของทั้ง 3 ประเทศเพื่อจัดระบบให้เป็นระเบียบมากขึ้น ความแตกต่างด้านคุณสมบัติพื้นฐานของแรงงาน 3 สัญชาติ คนงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา แรงงานจากเมียนมามีจำนวนมากที่สุดในไทย ด้วยเหตุผลด้านภูมิศาสตร์ ภาษา และวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะในภาคตะวันตกและภาคใต้ของประเทศ จุดเด่นของแรงงานเมียนมาคือความอดทน ขยัน และมีทักษะด้านงานช่างหรืองานหนัก เช่น ก่อสร้าง ต่อเรือ และเกษตรกรรม อย่างไรก็ตาม อาจมีอุปสรรคด้านภาษา เนื่องจากภาษาพูดแตกต่างจากไทยอย่างชัดเจน ทำให้ต้องใช้เวลาในการฝึกสื่อสาร คนงานต่างด้าวสัญชาติลาว คนลาวมีจุดเด่นด้านภาษาและวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกับไทยมาก โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้การสื่อสารและปรับตัวในสภาพแวดล้อมการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น แรงงานลาวมักนิยมทำงานในภาคบริการ งานร้านอาหาร และงานแม่บ้าน โดยรวมมีบุคลิกสุภาพ และเรียนรู้งานได้เร็ว แต่จำนวนคนลาวที่เข้ามาทำงานอาจน้อยกว่าเมียนมาและกัมพูชา เนื่องจากมีโอกาสทำงานในประเทศตนเองมากขึ้น คนงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา แรงงานจากกัมพูชาเป็นอีกกลุ่มสำคัญที่นิยมทำงานในภาคกลางและตะวันออกของไทย โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรม จุดแข็งของแรงงานกัมพูชาคือความสามารถในการปรับตัวสูง และสามารถเรียนรู้การใช้ภาษาไทยได้ดีในระดับหนึ่งเมื่อทำงานต่อเนื่อง จุดที่ต้องระวังคือแรงงานกัมพูชาบางส่วนอาจเข้ามาทำงานอย่างไม่ถูกกฎหมาย หากไม่มีการตรวจสอบเอกสารอย่างเคร่งครัด ความต่างด้านขั้นตอนการจ้างงานและข้อกฎหมายที่ควรรู้ ระบบ MOU และการจ้างงานถูกต้องตามกฎหมาย การนำเข้าแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 สัญชาติโดยถูกต้องผ่านระบบ MOU (Memorandum of Understanding) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดส่งแรงงานอย่างเป็นระบบ นายจ้างจะต้องยื่นความต้องการแรงงานไปยังกรมการจัดหางาน และเมื่อได้รับอนุมัติจึงสามารถว่าจ้างแรงงานต่างด้าวได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ความแตกต่างด้านเอกสารและการประสานกับสถานทูต แต่ละประเทศมีขั้นตอนด้านเอกสารและประสานงานต่างกัน เช่น เมียนมาเน้นใช้หนังสือเดินทาง (passport) และต้องผ่านระบบจัดส่งของรัฐบาล ส่วนกัมพูชาและลาวอาจใช้หนังสือเดินทางหรือบัตรผ่านแดน (border pass) และในบางกรณีสามารถดำเนินการผ่านช่องทางเร่งด่วนกับตัวแทนที่ได้รับอนุญาตจากสถานทูต ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกคนงานต่างด้าวให้เหมาะสม การเลือกคนงานต่างด้าวไม่ควรดูเพียงต้นทุนค่าแรง แต่ควรพิจารณาจากความเหมาะสมกับลักษณะงาน ความสามารถในการเรียนรู้ ภาษา วัฒนธรรม และประสบการณ์ โดยแรงงานจากเมียนมาอาจเหมาะกับงานที่ต้องใช้แรง งานหนัก หรือเชิงช่าง ส่วนแรงงานลาวและกัมพูชามีความเหมาะสมกับงานบริการหรือในภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการความละเอียดอ่อนและสื่อสารกับคนไทยบ่อยครั้ง เข้าใจความต่างเพื่อการจ้างงานที่มีประสิทธิภาพ แรงงานต่างด้าวจากเมียนมา ลาว และกัมพูชา ต่างมีจุดเด่น จุดด้อย และลักษณะเฉพาะตัวที่นายจ้างควรเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อนตัดสินใจว่าจ้าง เพื่อให้ได้แรงงานที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจมากที่สุด ทั้งในแง่ของทักษะ ความสามารถในการปรับตัว และการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากเลือกและจัดการได้อย่างเหมาะสม การจ้างคนงานต่างด้าวจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่จะกลายเป็นโอกาสในการเสริมสร้างกำลังแรงงานที่มีคุณภาพในระยะยาว มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

เปิดข้อมูลสิทธิแรงงานต่างด้าว คนงานพม่าเข้าระบบประกันสังคมไทยได้หรือไม่ มีขั้นตอนอย่างไร และต้องมีเอกสารอะไรบ้าง การจ้างแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะคนงานพม่าถือเป็นเรื่องสำคัญในภาคอุตสาหกรรมและบริการของไทย แต่หลายคนยังสงสัยว่า แรงงานเหล่านี้มีสิทธิ์เข้าระบบประกันสังคมของไทยหรือไม่? บทความนี้จะอธิบายอย่างชัดเจนถึงสิทธิ หน้าที่ และขั้นตอนการเข้าสู่ระบบประกันสังคมของคนงานพม่าในประเทศไทย พร้อมคำแนะนำจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อให้ทั้งนายจ้างและแรงงานเข้าใจสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับอย่างครบถ้วน คนงานพม่าคือใคร และสถานะทางกฎหมายในการทำงานในไทย นิยามของคนงานพม่าตามกฎหมายไทย คนงานพม่า หมายถึงแรงงานที่มีสัญชาติเมียนมาและได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งต้องมีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และผ่านกระบวนการขึ้นทะเบียนตามระบบ MOU หรือระบบผ่อนผันแรงงานต่างด้าวตามมติ ครม. ประเภทของการเข้ามาทำงาน แรงงานพม่าในไทยสามารถเข้ามาทำงานได้ 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ ระบบ MOU หรือการนำเข้าแรงงานโดยรัฐต่อรัฐ ซึ่งเป็นการจ้างงานแบบถูกกฎหมายครบถ้วน ระบบผ่อนผันหรือพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งครอบคลุมแรงงานที่เคยเข้ามาทำงานก่อนหน้านี้และได้รับอนุญาตให้ทำงานชั่วคราวโดยต้องทำเอกสารให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด คนงานพม่าสามารถเข้าระบบประกันสังคมในไทยได้หรือไม่? กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประกันสังคมของคนต่างด้าว ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แรงงานต่างด้าวที่ทำงานในไทยอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นแรงงานพม่า ลาว หรือกัมพูชา หากได้รับอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายไทย ถือว่า มีสิทธิและหน้าที่ในการเข้าสู่ระบบประกันสังคมเทียบเท่ากับแรงงานไทย ข้อกำหนดและขั้นตอนในการขึ้นทะเบียน นายจ้างมีหน้าที่ขึ้นทะเบียนคนงานพม่าเข้าสู่ระบบประกันสังคม ภายใน 30 วันหลังเริ่มงาน โดยต้องมีเอกสารสำคัญ ได้แก่ หนังสือเดินทาง หรือบัตรประจำตัวคนต่างด้าว ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) แบบฟอร์มขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส. 1-03) เมื่อขึ้นทะเบียนแล้ว แรงงานพม่าจะได้รับเลขที่ประกันสังคม และสามารถใช้สิทธิต่างๆ ได้ทันทีตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด สิทธิประโยชน์ของคนงานพม่าภายใต้ระบบประกันสังคม คนงานพม่าที่เข้าสู่ระบบประกันสังคมจะได้รับสิทธิต่างๆ ดังนี้ ค่ารักษาพยาบาล และบริการสาธารณสุขตามสถานพยาบาลที่เลือกไว้ เงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีเจ็บป่วยหรือคลอดบุตร เงินชดเชยกรณีทุพพลภาพหรือเสียชีวิต เงินสงเคราะห์บุตร เงินชราภาพ (กรณีอยู่ในระบบครบ 180 เดือน) สิทธิประโยชน์เหล่านี้ช่วยให้แรงงานต่างด้าวมีความมั่นคงในชีวิต และยังลดภาระของนายจ้างในกรณีที่ลูกจ้างเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ข้อควรรู้เพิ่มเติมสำหรับนายจ้างและคนงานพม่า การหักเงินสมทบและบทบาทของนายจ้าง การส่งเงินสมทบประกันสังคม แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ นายจ้าง 5% ลูกจ้าง 5% รัฐบาล 2.75% โดยเงินสมทบนี้จะถูกหักจากเงินเดือนทุกเดือน นายจ้างต้องส่งต่อสำนักงานประกันสังคมภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป การรักษาสิทธิกรณีเปลี่ยนงานหรือว่างงาน หากคนงานพม่าเปลี่ยนนายจ้าง หรือว่างงานระหว่างสัญญา พวกเขายังสามารถรักษาสิทธิประกันสังคมได้ในระยะเวลาหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขให้แจ้งสำนักงานประกันสังคมภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อคงสถานะผู้ประกันตนมาตรา 39 หรือสมัครใหม่ภายใต้มาตราอื่น คนงานพม่าสามารถเข้าสู่ระบบประกันสังคมได้อย่างถูกต้อง คนงานพม่าที่ทำงานในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีสิทธิและหน้าที่ในการเข้าสู่ระบบประกันสังคมเทียบเท่าคนไทย นายจ้างควรดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์ทั้งต่อแรงงานและตัวองค์กรเอง สิทธิประโยชน์จากประกันสังคมจะช่วยสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตของแรงงานต่างด้าว พร้อมส่งเสริมให้ระบบแรงงานในประเทศมีความเป็นธรรมและยั่งยืน มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

วิเคราะห์ค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานพม่าทุกกลุ่มงานในไทย ตั้งแต่แรงงานทั่วไป แม่บ้าน พนักงานโรงงาน จนถึงงานก่อสร้าง ทำไมคนงานพม่าถึงได้รับความนิยมในตลาดแรงงานไทย? ในปัจจุบันคนงานพม่าถือเป็นแรงงานต่างด้าวที่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในภาคแรงงานที่ต้องใช้กำลัง เช่น ก่อสร้าง โรงงาน อุตสาหกรรมการผลิต เกษตรกรรม และบริการด้านแรงงานทั่วไป ความขยัน อดทน และสามารถเรียนรู้ทักษะพื้นฐานได้เร็ว ทำให้คนงานพม่ากลายเป็นกำลังหลักในหลายธุรกิจทั่วประเทศ ค่าแรงขั้นต่ำของคนงานพม่าในประเทศไทย ค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมายไทย ค่าแรงขั้นต่ำของคนงานพม่าที่ทำงานในประเทศไทยจะอ้างอิงตามกฎหมายแรงงานไทย ซึ่งปัจจุบัน (ข้อมูลปี 2567) อยู่ที่ประมาณ 330–370 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับจังหวัดที่ทำงาน โดยไม่แยกเชื้อชาติหรือสัญชาติ นั่นหมายความว่า คนงานพม่าที่ได้รับอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะได้รับค่าจ้างเท่ากับแรงงานไทย ปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับค่าแรง แม้จะมีการกำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำ แต่ในความเป็นจริง ค่าจ้างที่ได้รับอาจแตกต่างกันตามทักษะ ประเภทงาน ลักษณะสัญญาจ้าง และนายจ้างบางรายที่เสนอค่าตอบแทนสูงขึ้นเพื่อรักษาคนงานที่มีฝีมือ ปัจจัยอื่นๆ เช่น ความสามารถด้านภาษา ความชำนาญในสายงาน และความพร้อมในการทำงานล่วงเวลา ก็อาจส่งผลต่อค่าจ้างที่คนงานพม่าได้รับจริง เปรียบเทียบค่าแรงคนงานพม่าตามประเภทงาน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น เราสามารถเปรียบเทียบอัตราค่าแรงเฉลี่ยที่คนงานพม่าได้รับในแต่ละสายงานได้ดังนี้: 1. งานก่อสร้าง งานก่อสร้างเป็นหนึ่งในสายงานที่นิยมจ้างคนงานพม่ามากที่สุด ค่าแรงเฉลี่ยอยู่ที่ 350–500 บาทต่อวัน หรือมากกว่านั้นหากมีทักษะเช่นการฉาบปูน วางเหล็ก หรืองานโครงสร้าง โดยปกติงานนี้มักมีค่าแรงสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำเพื่อดึงดูดคนงานที่มีความสามารถ 2. งานในโรงงานอุตสาหกรรม คนงานพม่าที่ทำงานในโรงงานมักได้รับค่าแรงตามขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด แต่หากทำงานเป็นกะหรือมีทักษะเฉพาะ ค่าแรงจะสูงขึ้น เช่น พนักงานฝ่ายผลิตทั่วไปอาจได้วันละ 330–370 บาท ส่วนพนักงานควบคุมเครื่องจักรอาจได้รับมากถึง 450–550 บาทต่อวัน 3. งานเกษตรกรรม แรงงานพม่าในภาคเกษตรมักเป็นงานชั่วคราวหรือจ้างเหมา เช่น เก็บผลไม้ ดำนา หรือทำสวน ค่าจ้างจะขึ้นอยู่กับผลผลิตหรือจำนวนวันทำงาน ค่าแรงเฉลี่ยอยู่ที่ 300–400 บาทต่อวัน หรืออาจคิดเป็นรายชิ้นตามข้อตกลง 4. งานแม่บ้านและดูแลผู้สูงอายุ งานประเภทนี้มีทั้งแบบอยู่ประจำและไปกลับ โดยเฉลี่ยค่าจ้างอยู่ที่ 9,000–15,000 บาทต่อเดือนสำหรับแม่บ้าน และ 12,000–18,000 บาทต่อเดือนสำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุ หากสื่อสารภาษาไทยได้ดีหรือมีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วย ค่าแรงจะสูงขึ้น สิทธิ์และความคุ้มครองของคนงานพม่าตามกฎหมายไทย แม้จะเป็นแรงงานข้ามชาติ แต่คนงานพม่าที่ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน เช่น สิทธิ์ในการได้รับค่าแรงขั้นต่ำ วันหยุดพักผ่อน วันลาป่วย รวมถึงสิทธิในการได้รับประกันสังคม นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีนโยบายจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว โดยมีการเปิดให้ลงทะเบียนแรงงานในระบบ MOU เพื่อให้คนงานพม่าได้รับสิทธิ์ที่ชัดเจนและป้องกันการเอาเปรียบจากนายจ้าง ค่าแรงคนงานพม่าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แม้ว่ากฎหมายไทยจะกำหนดค่าแรงขั้นต่ำอย่างชัดเจน แต่ในภาคปฏิบัติ ค่าแรงของคนงานพม่าจะแตกต่างกันตามลักษณะงาน ความชำนาญ และเงื่อนไขของนายจ้าง การเลือกใช้แรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างมั่นคง แต่ยังส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนงานพม่าในไทยอีกด้วย มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

รวม 5 ปัญหาสำคัญที่นายจ้างควรรู้ ก่อนจ้างแรงงานพม่า ทั้งเรื่องเอกสารผิดกฎหมาย การสื่อสาร และความเข้าใจในวัฒนธรรม การจ้างคนงานพม่าถือเป็นทางเลือกยอดนิยมของภาคธุรกิจในไทย ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมก่อสร้าง แปรรูปอาหาร หรือบริการทั่วไป เพราะคนงานพม่ามีความขยัน อดทน และสามารถเรียนรู้ได้รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นายจ้างหลายรายก็พบเจอปัญหาต่าง ๆ ตามมา หากไม่มีการวางระบบหรือเตรียมความพร้อมที่ดีพอ บทความนี้จะสรุป 5 ปัญหาหลักที่พบบ่อยเมื่อจ้างแรงงานพม่า พร้อมแนวทางป้องกันเพื่อช่วยให้นายจ้างบริหารจัดการแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัญหาด้านเอกสารและสถานะการทำงาน คนงานพม่าหลายรายยังไม่มีเอกสารถูกต้อง หนึ่งในปัญหาหลักที่นายจ้างมักพบเมื่อเริ่มจ้างคนงานพม่า คือเรื่องของเอกสารที่ไม่ครบถ้วนหรือหมดอายุ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน หรือเอกสารการตรวจสุขภาพ ซึ่งหากไม่ตรวจสอบให้รอบคอบตั้งแต่ต้น อาจส่งผลให้บริษัทต้องรับผิดชอบตามกฎหมายแรงงานและกฎหมายคนเข้าเมือง วิธีแก้ไข ควรตรวจสอบสถานะเอกสารแรงงานอย่างละเอียดก่อนรับเข้าทำงาน และหากเป็นไปได้ ให้ใช้บริการบริษัทนำเข้าแรงงานที่มีใบอนุญาตถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง ปัญหาด้านภาษาและการสื่อสาร การเข้าใจผิดจากภาษาอาจนำไปสู่ความเสียหาย แม้คนงานพม่าหลายคนจะสามารถเข้าใจภาษาไทยได้ในระดับพื้นฐาน แต่การสื่อสารที่ซับซ้อนยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความแม่นยำ หากสื่อสารผิดพลาด อาจเกิดความเสียหายต่อสินค้า ความปลอดภัย หรือประสิทธิภาพการทำงาน วิธีแก้ไข นายจ้างควรจัดอบรมหรือให้สื่อประกอบ เช่น แผ่นภาพ คำสั่งงานที่เป็นภาษาพม่า หรือแต่งตั้งหัวหน้างานที่สามารถสื่อสารสองภาษาได้ เพื่อเป็นสะพานเชื่อมให้กับแรงงาน ปัญหาด้านสวัสดิการและสิทธิแรงงาน นายจ้างบางรายละเลยสิทธิพื้นฐานของคนงานพม่า แรงงานข้ามชาติ รวมถึงคนงานพม่ามีสิทธิในเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ เวลาทำงาน สวัสดิการ และความปลอดภัยเช่นเดียวกับแรงงานไทย แต่หลายครั้งพบว่านายจ้างไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้ ทำให้เกิดปัญหาการร้องเรียนและส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของบริษัท วิธีแก้ไข ควรศึกษากฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้องกับแรงงานข้ามชาติให้ชัดเจน และจัดให้มีสวัสดิการพื้นฐาน เช่น ประกันสังคม วันหยุดตามสิทธิ เพื่อสร้างแรงจูงใจและลดอัตราการลาออก ปัญหาด้านการรักษาคนงานไว้ในระยะยาว การโยกย้ายงานของแรงงานพม่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย คนงานพม่าบางรายเมื่อได้รับใบอนุญาตทำงานแล้ว มักมีแนวโน้มย้ายไปทำงานกับนายจ้างที่เสนอค่าจ้างสูงกว่า ทำให้ธุรกิจต้องเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่บ่อยครั้ง สูญเสียเวลาและต้นทุนในการฝึกอบรม วิธีแก้ไข สร้างแรงจูงใจด้วยสวัสดิการเพิ่มเติม มีเส้นทางความก้าวหน้าในงาน และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับแรงงาน โดยเปิดโอกาสให้แรงงานมีส่วนร่วมในการพัฒนาที่ทำงาน จะช่วยลดการลาออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจ้างคนงานพม่าให้ได้ผลดี ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของค่าแรงที่ถูกลง แต่ต้องอาศัยความเข้าใจในวัฒนธรรม กฎหมายแรงงาน การสื่อสาร และการดูแลสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างรอบด้าน หากนายจ้างมีการวางแผนที่ชัดเจน ตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้อง และมีการจัดการแรงงานอย่างเป็นระบบ ก็จะสามารถใช้ศักยภาพของแรงงานพม่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

ขั้นตอนและข้อกำหนดในการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน เอกสารที่ต้องใช้ ระยะเวลาการดำเนินการ ค่าธรรมเนียม และแนวทางปฏิบัติเพื่อให้แรงงานทำงานถูกต้องตามกฎหมาย การต่ออายุใบอนุญาตทำงานเป็นกระบวนการที่นายจ้างและแรงงานต่างด้าวต้องปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง เพื่อให้แรงงานสามารถทำงานในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีปัญหาทางกฎหมาย บทความนี้จะอธิบายถึงขั้นตอน ข้อกำหนด เอกสารที่ต้องใช้ ระยะเวลาการดำเนินการ ค่าธรรมเนียม และแนวทางปฏิบัติเพื่อให้แรงงานทำงานอย่างถูกต้อง ข้อกำหนดในการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ก่อนดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน นายจ้างและแรงงานต่างด้าวต้องตรวจสอบข้อกำหนดดังต่อไปนี้ แรงงานต้องมีใบอนุญาตทำงานเดิมที่ยังไม่หมดอายุ แรงงานต้องทำงานกับนายจ้างเดิม และมีสัญญาจ้างงานที่ถูกต้อง แรงงานต้องมีพาสปอร์ตหรือเอกสารประจำตัวที่ถูกต้อง ต้องเป็นแรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานตามประเภทที่กฎหมายกำหนด นายจ้างต้องดำเนินการยื่นเรื่องก่อนใบอนุญาตหมดอายุอย่างน้อย 30 วัน ขั้นตอนการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน การเตรียมเอกสารที่จำเป็น เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ได้แก่ สำเนาหนังสือเดินทางของแรงงาน ใบอนุญาตทำงานฉบับเดิม ใบรับรองสุขภาพจากสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรอง สัญญาจ้างงานฉบับใหม่ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปี หนังสือรับรองการทำงานจากนายจ้าง สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของนายจ้าง (กรณีเป็นบุคคลธรรมดา) หนังสือรับรองบริษัทและบัญชีรายชื่อกรรมการ (กรณีเป็นนิติบุคคล) หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของแรงงานต่างด้าว การยื่นคำขอและระยะเวลาการดำเนินการ นายจ้างต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดหรือสำนักงานจัดหางานกลาง (สำหรับกรุงเทพฯ) ระยะเวลาการดำเนินการปกติจะอยู่ที่ 7-15 วันทำการ หากเอกสารครบถ้วน หากเอกสารไม่ครบถ้วน อาจต้องมีการแก้ไขและยื่นเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้กระบวนการล่าช้า ค่าธรรมเนียมในการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ค่าธรรมเนียมต่ออายุใบอนุญาตทำงานโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1,900 – 3,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ต่ออายุ อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมตรวจสุขภาพ ค่าธรรมเนียมการขอใบรับรองจากสถานพยาบาล แนวทางปฏิบัติเพื่อให้แรงงานทำงานถูกต้องตามกฎหมาย การป้องกันปัญหาการหมดอายุของใบอนุญาต นายจ้างและแรงงานต้องตรวจสอบวันหมดอายุของใบอนุญาตทำงานล่วงหน้า ควรยื่นขออนุญาตต่ออายุอย่างน้อย 30 วันก่อนวันหมดอายุ หากใบอนุญาตหมดอายุและไม่ได้ต่ออายุ แรงงานอาจต้องออกจากประเทศและยื่นขอใบอนุญาตใหม่ การปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายแรงงาน แรงงานต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของใบอนุญาตทำงาน เช่น ไม่สามารถทำงานนอกเหนือจากที่กำหนด หากมีการเปลี่ยนนายจ้าง ต้องแจ้งสำนักงานจัดหางานเพื่อขอปรับเปลี่ยนใบอนุญาต นายจ้างต้องแจ้งสำนักงานจัดหางานหากมีการเลิกจ้างแรงงานต่างด้าว การจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้องและครบถ้วน ตรวจสอบว่าเอกสารทุกฉบับเป็นฉบับที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เอกสารที่เป็นภาษาต่างประเทศต้องมีการแปลเป็นภาษาไทยและรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การใช้บริการจากบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาต หากนายจ้างไม่สะดวกดำเนินการเอง สามารถใช้บริการจากบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการแทน บริษัทจัดหางานจะช่วยดูแลเรื่องเอกสาร การยื่นคำขอ และติดตามสถานะการอนุมัติ ผลกระทบของการไม่ต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ผลกระทบต่อนายจ้าง นายจ้างที่จ้างแรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตหรือใบอนุญาตหมดอายุ อาจถูกปรับสูงสุด 100,000 บาทต่อคน อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแรงงานและกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ผลกระทบต่อแรงงานต่างด้าว แรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานเกินเวลาที่กำหนด อาจถูกปรับสูงสุด 50,000 บาท และถูกเนรเทศออกจากประเทศ อาจถูกห้ามเข้ามาทำงานในประเทศไทยเป็นระยะเวลาหนึ่ง การต่ออายุใบอนุญาตทำงานเป็นขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับแรงงานต่างด้าวที่ต้องการทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นายจ้างและแรงงานต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย รวมถึงเตรียมเอกสารที่จำเป็น ยื่นคำขอล่วงหน้า และชำระค่าธรรมเนียมให้ถูกต้อง นอกจากนี้ การปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานยังช่วยให้ทั้งนายจ้างและแรงงานสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากโทษทางกฎหมาย และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มั่นคงและปลอดภัย หากต้องการให้กระบวนการต่ออายุใบอนุญาตเป็นไปอย่างราบรื่น นายจ้างควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับข้อกำหนดของกระทรวงแรงงาน และสามารถขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหรือบริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตเพื่อให้มั่นใจว่าทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

สรุปกฎหมายและข้อบังคับที่นายจ้างและแรงงานต่างด้าวควรรู้ สิทธิแรงงาน ข้อกำหนดการจ้างงานโทษทางกฎหมาย และแนวทางปฏิบัติเพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบ การจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายและระเบียบที่นายจ้างและลูกจ้างต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การละเมิดกฎหมายอาจนำไปสู่บทลงโทษที่รุนแรงทั้งต่อแรงงานและนายจ้าง ดังนั้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิแรงงาน ข้อกำหนดการจ้างงาน โทษทางกฎหมาย และแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามกฎหมาย สิทธิแรงงานต่างด้าวที่ควรรู้ สิทธิขั้นพื้นฐานของแรงงานต่างด้าว ไม่ว่าจะแรงงานไทยหรือแรงงานต่างด้าว ต่างมีสิทธิพื้นฐานตามกฎหมายแรงงาน ดังนี้ ได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่าค่าจ้างขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด ได้รับค่าล่วงเวลาหากทำงานเกินเวลาปกติ ได้รับวันหยุดตามที่กำหนดในกฎหมายและสัญญาจ้างงาน มีสิทธิได้รับสวัสดิการและการคุ้มครองด้านความปลอดภัยในที่ทำงาน มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลและสวัสดิการประกันสังคม (สำหรับแรงงานที่มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง) สิทธิด้านสวัสดิการและการคุ้มครองแรงงาน แรงงานต่างด้าวที่ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายมีสิทธิได้รับสวัสดิการ ดังนี้ ประกันสังคม: แรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาตทำงานสามารถเข้าระบบประกันสังคมและได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยกรณีทุพพลภาพ หรือเงินบำนาญเมื่อเกษียณอายุ การรักษาพยาบาล: แรงงานที่ไม่มีประกันสังคมสามารถเข้าร่วมโครงการประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวของกระทรวงสาธารณสุข สิทธิในกรณีถูกเลิกจ้าง: แรงงานมีสิทธิได้รับค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน หากถูกเลิกจ้างโดยไม่มีเหตุผลที่ถูกต้อง ข้อกำหนดการจ้างงานแรงงานต่างด้าว ประเภทของแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน ประเทศไทยอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เข้ามาทำงานภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด โดยแบ่งออกเป็นประเภทหลักดังนี้ แรงงานตามระบบ MOU (Memorandum of Understanding) เป็นแรงงานที่เข้ามาทำงานผ่านข้อตกลงระหว่างรัฐบาล แรงงานที่ผ่านการจดทะเบียนตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งต้องมีการพิสูจน์สัญชาติและขอใบอนุญาตทำงาน แรงงานที่เข้ามาทำงานเฉพาะกิจ เช่น งานเกษตร งานประมง หรือการทำงานในเขตพิเศษ การจดทะเบียนแรงงานและขอใบอนุญาตทำงาน นายจ้างต้องดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานให้แรงงานต่างด้าวที่ตนว่าจ้าง แรงงานต้องได้รับใบอนุญาตทำงานก่อนเริ่มทำงาน และต้องทำงานตามประเภทที่ได้รับอนุญาต การเปลี่ยนงานโดยไม่มีการแจ้งขอแก้ไขใบอนุญาตถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย สัญญาจ้างงานที่ถูกต้อง สัญญาจ้างงานควรมีรายละเอียดดังนี้ ข้อมูลของนายจ้างและลูกจ้าง ประเภทของงานที่ต้องทำ ค่าจ้างและสวัสดิการ ชั่วโมงทำงานและวันหยุด เงื่อนไขเกี่ยวกับการเลิกจ้างและค่าชดเชย โทษทางกฎหมายสำหรับนายจ้างและแรงงานต่างด้าวที่ละเมิดกฎหมาย โทษของนายจ้างที่จ้างแรงงานผิดกฎหมาย จ้างแรงงานต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน: โทษปรับสูงสุด 100,000 บาทต่อคน ให้แรงงานทำงานนอกเหนือจากที่ระบุในใบอนุญาต: โทษปรับสูงสุด 50,000 บาท จ้างแรงงานที่ไม่มีเอกสารรับรองตัวตนหรือทำงานผิดประเภท: อาจถูกจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 400,000 – 800,000 บาทต่อคน โทษของแรงงานต่างด้าวที่ทำผิดกฎหมาย ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต: โทษปรับสูงสุด 50,000 บาท และอาจถูกส่งกลับประเทศ เปลี่ยนนายจ้างโดยไม่แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: อาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตและเนรเทศ ใช้เอกสารปลอมหรือแอบอ้างตนเป็นบุคคลอื่น: อาจถูกดำเนินคดีทางอาญาและถูกห้ามเข้าประเทศ แนวทางปฏิบัติเพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบ สำหรับนายจ้าง ตรวจสอบสถานะทางกฎหมายของแรงงานต่างด้าวก่อนจ้างงาน จัดทำสัญญาจ้างงานให้ชัดเจนและยุติธรรม ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้อง และขอใบอนุญาตทำงานตามกฎหมาย ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานเกี่ยวกับค่าจ้าง ชั่วโมงทำงาน และสวัสดิการ หลีกเลี่ยงการจ้างแรงงานผิดกฎหมายเพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกปรับหรือดำเนินคดี สำหรับแรงงานต่างด้าว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับใบอนุญาตทำงานก่อนเริ่มงาน ปฏิบัติตามข้อกำหนดของใบอนุญาต และหลีกเลี่ยงการทำงานผิดประเภท แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากมีการเปลี่ยนแปลงนายจ้าง หลีกเลี่ยงการใช้เอกสารปลอม หรือเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย การจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นกระบวนการที่ต้องมีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งในเรื่องของสิทธิแรงงาน ข้อกำหนดการจ้างงาน และการป้องกันการละเมิดกฎหมาย การปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่ยังช่วยป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น นายจ้างควรศึกษาแนวทางที่ถูกต้องในการจ้างแรงงาน และแรงงานต่างด้าวควรทำความเข้าใจถึงสิทธิและหน้าที่ของตนเพื่อให้สามารถทำงานในประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยและมั่นคง มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

แนวทางการคัดเลือกแรงงานต่างด้าวที่เหมาะสมกับงาน วิธีประเมินทักษะ ตรวจสอบเอกสาร พิจารณาคุณสมบัติ และข้อควรรู้ด้านกฎหมายเพื่อการจ้างงานที่มีประสิทธิภาพ การนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU เป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการแรงงานเพิ่ม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก เช่น ก่อสร้าง เกษตรกรรม โรงงานผลิต และบริการต่างๆ อย่างไรก็ตาม การเลือกและจ้างแรงงานต่างด้าวให้เหมาะสมกับงานต้องใช้กระบวนการที่รอบคอบ ทั้งในเรื่องของการประเมินทักษะ การตรวจสอบเอกสาร และปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย เพื่อให้การจ้างงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต วิธีการคัดเลือกแรงงานต่างด้าวให้เหมาะสมกับงาน การกำหนดคุณสมบัติที่ต้องการ ก่อนจัดหาแรงงานต่างด้าว ควรกำหนดคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน เช่น ทักษะที่จำเป็น เช่น แรงงานทั่วไป งานช่าง งานก่อสร้าง หรืองานบริการ ประสบการณ์ทำงานเดิม (หากเป็นตำแหน่งที่ต้องการความเชี่ยวชาญ) ความสามารถทางภาษา หากจำเป็นต้องสื่อสารกับพนักงานหรือผู้บังคับบัญชา สุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย เพื่อให้สามารถทำงานได้ตามที่กำหนด วิธีประเมินทักษะ ทดสอบภาคปฏิบัติ: ในกรณีงานช่าง ก่อสร้าง หรืออุตสาหกรรม ควรมีการทดสอบฝีมือเบื้องต้น สัมภาษณ์เบื้องต้น: เพื่อประเมินการสื่อสาร ทัศนคติ และความเข้าใจเกี่ยวกับงาน ตรวจสอบประสบการณ์ที่ผ่านมา: ผ่านเอกสารหรือการสอบถามจากนายจ้างเดิม การตรวจสอบเอกสารที่จำเป็นในการจ้างงานแรงงานต่างด้าว เพื่อให้การจ้างแรงงานเป็นไปตามกฎหมาย นายจ้างต้องตรวจสอบเอกสารดังต่อไปนี้ เอกสารพื้นฐาน หนังสือเดินทาง (Passport) บัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) สัญญาจ้างงานที่ถูกต้อง เอกสารอื่นๆ ตามข้อกำหนดของกฎหมาย ใบรับรองสุขภาพจากสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน (หากเป็นข้อบังคับของประเทศนั้นๆ) เอกสารตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (กรณีงานที่ต้องมีความน่าเชื่อถือสูง) ข้อควรรู้ด้านกฎหมายเพื่อการจ้างงานที่ถูกต้อง การขอใบอนุญาตทำงาน การจัดหาแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องต้องมีการขอใบอนุญาตทำงานให้ครบถ้วน โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังนี้ นายจ้างต้องดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานจากกรมการจัดหางานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แรงงานต้องได้รับอนุญาตให้ทำงานในอาชีพที่กำหนดเท่านั้น การทำงานนอกเหนือจากที่ระบุในใบอนุญาตถือว่าผิดกฎหมาย การปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยค่าจ้างและสวัสดิการ ค่าจ้างขั้นต่ำต้องเป็นไปตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด ต้องมีสวัสดิการที่จำเป็น เช่น การประกันสังคม การรักษาพยาบาล ห้ามนายจ้างหักเงินค่าจ้างเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การดูแลและสวัสดิการแรงงานต่างด้าว เพื่อให้การจ้างงานเป็นไปอย่างยั่งยืน นายจ้างควรมีมาตรการดูแลแรงงานต่างด้าว เช่น จัดหาที่พักที่ปลอดภัย ดูแลเรื่องสวัสดิการพื้นฐาน เช่น อาหาร น้ำดื่ม และสุขอนามัย ป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจากบุคคลที่สาม เช่น นายหน้าผิดกฎหมาย การลดความเสี่ยงในการจัดหาแรงงานต่างด้าว หลีกเลี่ยงแรงงานผิดกฎหมาย นายจ้างควรใช้วิธีจัดหาแรงงานต่างด้าวผ่านช่องทางที่ถูกกฎหมาย เช่น ติดต่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตจากภาครัฐ ขอความร่วมมือจากหน่วยงานราชการหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง ป้องกันปัญหาการเปลี่ยนงานและแรงงานหนี มีสัญญาจ้างงานที่เป็นธรรมและมีรายละเอียดครบถ้วน จัดสรรสวัสดิการที่เหมาะสม เพื่อสร้างความพึงพอใจในการทำงาน ติดตามและพูดคุยกับแรงงานเป็นระยะ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด การจัดหาแรงงานต่างด้าวอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องดำเนินการตามกระบวนการที่เหมาะสม ตั้งแต่การคัดเลือกแรงงาน ประเมินทักษะ ตรวจสอบเอกสาร ไปจนถึงการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้อง นายจ้างควรเลือกช่องทางการจัดหาแรงงานที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีสำหรับแรงงานต่างด้าว การดูแลแรงงานอย่างเป็นธรรมไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายในระยะยาว หากต้องการจัดหาแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ควรศึกษาข้อมูลและใช้บริการจากบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตจากภาครัฐ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมายและสามารถบริหารแรงงานได้อย่างยั่งยืน มองหาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เลือกบริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศเท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU รับจัดหาแรงงานต่างด้าว จัดหาคนงานต่างด้าว นําเข้าแรงงานต่างด้าว MOU หาแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมต่อเอกสาร MOU คนงานพม่า-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม เรามีแรงงานต่างด้าวพร้อมส่งมากกว่า 10,000 อัตรา/เดือน และสามารถส่งมอบแรงงานให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 45 วัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่สะดุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการหาคนงานต่างด้าว โทร. 098-270-4840, 086-528-4820 อีเมล : 10milelabourgroup@gmail.com ...

   หน้าที่ของบริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ (เช่น บริษัท เท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป) ในฐานะตัวแทนนายจ้าง สำหรับแรงงานต่างด้าวแบบ MOU   บริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ เท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามระบบบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างประเทศไทยกับประเทศต้นทาง เช่น เมียนมา ลาว และกัมพูชา ในฐานะตัวแทนนายจ้าง บริษัทมีหน้าที่และความรับผิดชอบดังนี้: 1. จัดหาและคัดเลือกแรงงานต่างด้าว: • ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศต้นทาง เพื่อคัดเลือกแรงงานที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของนายจ้าง • จัดทำบัญชีรายชื่อแรงงาน (Name List) และส่งให้นายจ้างพิจารณา 2. ดำเนินการด้านเอกสารและการอนุญาต: • ยื่นคำร้องขอนำเข้าแรงงานต่างด้าว (Demand Letter) ต่อกรมการจัดหางาน • จัดเตรียมและดำเนินการด้านเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และวีซ่าทำงาน (Non-Immigrant L-A) 3. การฝึกอบรมและเตรียมความพร้อม: • จัดอบรมให้ความรู้แก่แรงงานเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานไทย วัฒนธรรม และข้อกำหนดในการทำงาน • ตรวจสุขภาพแรงงานเพื่อให้แน่ใจว่ามีความพร้อมในการทำงาน 4. การเดินทางและการต้อนรับ: • จัดการเรื่องการเดินทางของแรงงานจากประเทศต้นทางมายังประเทศไทย • ต้อนรับและนำแรงงานส่งถึงสถานประกอบการของนายจ้าง 5. การดูแลและบริการหลังการจ้าง: • ให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างนายจ้างและแรงงาน • ดำเนินการต่ออายุเอกสาร เช่น ใบอนุญาตทำงาน วีซ่า และการตรวจสุขภาพ ตามที่กฎหมายกำหนด บริษัท เท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป มุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อให้นายจ้างได้รับแรงงานที่มีคุณภาพ และแรงงานได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย บริษัทที่เป็นผู้แทนนายจ้างในการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามระบบ MOU มีหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายแรงงานและกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ดังนี้: ? 1. การแจ้งที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าว (ตามมาตรา 38 ของ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522) • แจ้งที่พักอาศัย (แบบ ตม.30): • นายจ้างหรือผู้ให้ที่พักต้องแจ้งที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าวภายใน 24 ชั่วโมง นับจากวันที่แรงงานเข้าพัก • แจ้งผ่าน: • สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในพื้นที่ หรือ • ระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.immigration.go.th • เอกสารประกอบ: • แบบ ตม.30 • สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) ของแรงงาน • สำเนาทะเบียนบ้านหรือสัญญาเช่าของที่พัก ? 2. การรายงานตัวทุก 90 วัน (90-Day Report) ตามมาตรา 37(5) ของ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 • ผู้ที่ต้องรายงานตัว: แรงงานต่างด้าวที่พำนักในไทยเกิน 90 วัน • ระยะเวลารายงาน: ทุก ๆ 90 วัน นับจากวันที่แรงงานเดินทางเข้ามาในประเทศไทย • วิธีการรายงาน: • รายงานด้วยตนเองที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง • รายงานทางไปรษณีย์ • รายงานออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.immigration.go.th • เอกสารที่ต้องใช้: • สำเนาหนังสือเดินทาง • สำเนาใบอนุญาตทำงาน • ใบรับรองการแจ้งที่พัก (ตม.30) • แบบฟอร์มรายงานตัวครบ 90 วัน (ตม.47) ? 3. การแจ้งเข้า - แจ้งออกแรงงานต่างด้าว (กรมการจัดหางาน) ตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม • 3.1 การแจ้งเข้า (จจ.1): • แจ้งการรับแรงงานเข้าทำงาน ภายใน 15 วัน นับจากวันที่แรงงานเริ่มงาน • ยื่น แบบ จจ.1 ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือผ่านระบบออนไลน์ e-Workpermit • เอกสารที่ต้องใช้: • สำเนาหนังสือเดินทาง • สำเนาใบอนุญาตทำงาน • สำเนาสัญญาจ้าง • 3.2 การแจ้งออก (จจ.1): • แจ้งการสิ้นสุดการจ้างงาน (ลาออก เลิกจ้าง หรือแรงงานหลบหนี) ภายใน 15 วัน • ยื่น แบบ จจ.1 ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือผ่านระบบออนไลน์ e-Workpermit • เอกสารที่ต้องใช้: • สำเนาหนังสือเดินทาง • สำเนาใบอนุญาตทำงาน • หนังสือบอกเลิกสัญญาจ้าง (ถ้ามี) ? 4. การแจ้งออกจากระบบประกันสังคม (กรณีเลิกจ้าง) • แจ้งออกแรงงานต่างด้าวจากระบบประกันสังคมภายใน 15 วัน หลังจากสิ้นสุดการจ้าง • ยื่น แบบ สปส.6-09 (แจ้งออกผู้ประกันตน) ที่สำนักงานประกันสังคม หรือผ่านระบบออนไลน์ ⚠️ บทลงโทษหากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย: • ไม่แจ้งที่พักภายใน 24 ชั่วโมง (ตม.30): ปรับไม่เกิน 10,000 บาท • ไม่รายงานตัว 90 วัน: ปรับไม่เกิน 5,000 บาท และปรับเพิ่มวันละ 200 บาท จนกว่าจะรายงานตัว • ไม่แจ้งเข้า-แจ้งออกแรงงานต่อกรมการจัดหางาน (จจ.1): ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ต่อแรงงาน 1 คน • ไม่แจ้งออกจากประกันสังคม (สปส.6-09): ปรับไม่เกิน 20,000 บาท ✅ สรุปหน้าที่สำคัญของบริษัทตัวแทนนายจ้าง (บริษัท เท็นไมล์เลเบอร์กรุ๊ป): 1. แจ้งที่พักอาศัย (ตม.30): ภายใน 24 ชั่วโมง หลังแรงงานเข้าพัก 2. รายงานตัวทุก 90 วัน (ตม.47): ทุกๆ 90 วัน ตามกฎหมาย ตม. 3. แจ้งเข้า - แจ้งออกการจ้างงาน (จจ.1): ภายใน 15 วัน ต่อกรมการจัดหางาน 4. แจ้งออกจากระบบประกันสังคม (สปส.6-09): ภายใน 15 วัน การปฏิบัติตามขั้นตอนทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้บริษัทปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมายและค่าปรับต่าง ๆ อีกด้วย.      ...